รวมเว็บฝากไฟล์ออนไลน์ใช้งานฟรี โหลดได้ทุกที่ ไม่พลาดทุกไฟล์
Share
29 ธ.ค. 2563

หากพูดถึงบริการเว็บฝากไฟล์ออนไลน์ในปัจจุบันแล้ว หลายๆ คนมักจะพูดถึง Google Photos กันใช่มั้ยครับ เนื่องจากเป็นบริการที่เปิดให้ฝากไฟล์ภาพความละเอียดสูงได้ฟรีแบบไม่จำกัดจำนวน แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาง Google ได้ประกาศออกมาว่าหลังจากวันที่ 1 มิถุนายน 2021 เป็นต้นไป การใช้งาน Google Photos จะต้องแชร์ร่วมกับพื้นที่ฟรีขนาด 15GB ที่เป็นของ Google Account ส่วนผู้ที่ต้องการพื้นที่มากกว่านั้นจะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้งานอาจจะเกิดความกังวลและมองหาตัวเลือกอื่นในการใช้งาน วันนี้ทาง Mercular.com จะมาแนะนำบริการของเหล่าเว็บฝากไฟล์ยอดนิยมเพื่อเป็นตัวเลือกให้การตัดสินใจให้แก่เพื่อน ๆ กันครับ เราไปดูกันเลยดีกว่าครับว่ามีบริการอะไรบ้าง
Dropbox

บริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2008 เรียกได้ว่าเป็นบริการที่มีมาก่อน Google Photos ที่เปิดตัวเมื่อปี 2015 เสียอีก ผู้ใช้งานสามารถซิงค์รูปภาพ วิดีโอ รวมไปถึงไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ ที่สำคัญจากบนสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือเวลาใด แต่พื้นที่ให้บริการฟรีของ Dropbox นั้นมีให้เพียงแค่ 2GB เท่านั้น ต่างกับ Google Photos ที่มีพื้นที่ฟรีให้มากถึง 15 GB แต่สิ่งที่ผู้ใช้งานจะได้กลับมาก็คือความปลอดภัยในการใช้งาน มีการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ รวมไปถึงการปรับแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเก็บรูปโดยใช้ Cloud Photos ที่เหมาะสำหรับผู้ให้ความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นอย่างมาก
อัตราค่าบริการ
- Dropbox Basic ฟรี (2GB)
- Dropbox Plus $9.99 /เดือน (2TB)
- Dropbox Family (ใช้งานได้ 6 คน) $16.99/เดือน (2TB)
Apple iCloud

หากคุณเป็นผู้ใช้งานระบบปฎิบัติการณ์ iOS จะต้องรู้จักกับ iCloud อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นบริการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์จาก Apple ที่มีประสิทธิภาพเช่นเดียวกัน Google Photos โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 2011 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้ใช้งานอุปกรณ์ทั้งหมดจากแอปเปิ้ลก็สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้อย่างง่ายดาย การฝากรูปก็นับเป็นหนึ่งในเซอร์วิสที่ iCloud รองรับเช่นเดียวกับ Google Photos เรียกได้ว่าเมื่อเชื่อมต่อด้วยบัญชีเดียวกันแล้ว ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงรูปภาพได้จากทุกอุปกรณ์เลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ฟรีให้ใช้งานรวมไปถึงขนาดความจุให้เลือกอย่างหลากหลาย ข้อจำกัดก็คือการจะเข้าถึงบริการนั้นต้องเป็นผู้ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ iOS เท่านั้น ส่วนผู้ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Andrioid นั้นไม่สามารถใช้บริการได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จำเป็นใช้งานผ่านบราวเซอร์ ซึ่งทำให้มีข้อจำกัดอยู่พอสมควรเลยทีเดียว
อัตราค่าบริการ
- ฟรี (5GB)
- 35 บาท/เดือน (50GB)
- 99 บาท /เดือน (200GB)
- 349 บาท /เดือน (2TB)
Flickr

อีกหนึ่งเว็บฝากรูปยอดนิยมที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากก็คือ Flickr หรือ ฟลิคเกอร์ โดยผู้ใช้สามารถอัปโหลดรูปภาพรวมไปถึงแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับผู้ชอบเล่นกล้อง สามารถใช้ได้ทั้งมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งฟลิคเกอร์นั้นเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าผู้ที่เขียนบล็อค เนื่องจากสามารถนำรูปที่อัปโหลดเข้าไปมาใช้ในบล็อคของตัวเองได้โดยตรง แถมยังสามารถแท็กเพื่อเขียนคำอธิบายรูป และสามารถค้นหาตามชื่อที่เขียนโดยผู้ใช้งานได้อีกด้วย เมื่อผู้ใช้งานอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นโปร จะทำให้ได้พื้นที่ในการใช้งานที่ไม่จำกัด ไม่มีโฆษณามารบกวนใจ สามารถอัปโหลดวิดีโอความละเอียดสูงได้ และยังได้รับส่วนลดจากเหล่าโปรแกรมตกแต่งรูปภาพอีกมากมาย เช่น Adobe, Blurb, SmugMug, Priime เป็นต้น
อัตราค่าบริการ
- ฟรี 1,000 รูป
- Flickr Pro รายเดือน $7.99/เดือน
- Flickr Pro ราย 3 เดือน $21.99/ทุก 3 เดือน
- Flickr Pro รายปี $5.99/ เดือน (เรียกเก็บเงินทุกปี)
Amazon Photos

บริการเว็บฝากภาพจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Amazon ที่ผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดรูปภาพและวิดีโอ รวมไปถึงสร้างอัลบั้มและแบ่งปันระหว่างผู้ใช้งานอื่นได้อย่างอิสระ ซึ่งมีพื้นที่ฟรีให้ใช้จัดเก็บรูปภาพได้มากถึง 5GB แถมยังรองรับสกุลของไฟล์ภาพได้มากมาย เช่น JPEG, PNG, MP4 เป็นต้น รองรับการใช้งานจากช่องทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Web browser, แอปพลิเคชั่นบนเดสก์ท็อป, จากระบบปฏิบัติการณ์ iOS และ Android เป็นต้น แต่สิ่งที่ควรทราบคือเว็บฝากไฟล์ของ Amazon นั้นมีให้บริการทั้ง Amazon Photos และ Amazon Drive ซึ่งมีความแตกต่างกันตรงที่ Drive สามารถฝากไฟล์สกุลอื่น ที่นอกจากรูปได้ด้วย เช่น ไฟล์สกุล ZIP, PDF, DOCX ส่วน Photos จะฝากได้แค่ไฟล์สกุลที่เป็นรูปภาพเท่านั้น
อัตราค่าบริการ
- ฟรี (5GB)
- $19.99/ปี (100GB)
OneDrive

OneDrive เป็นบริการจัดเก็บไฟล์บน Cloud จาก Microsoft ที่จะเชื่อมต่อผู้ใช้งานเข้ากับไฟล์ทั้งหมดของคุณ ช่วยในการจัดเก็บและป้องกันไฟล์ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงสามารถแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะใช้งานบนอุปกรณ์ใดเช่น จากคอมพิวเตอร์, แล็ปท็อป หรือจากบนสมาร์ทโฟน เพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น ข้อดีของ OneDrive คือสามารถจัดเก็บไฟล์ได้อย่างหลากหลาย ไม่ใช่เพียงเฉพาะแค่ภาพและวิดีโอเท่านั้น ไฟล์เอกสาร เช่น Microsoft Word ,Excel, PowerPoint รวมถึงไฟล์เอกสารอื่นๆ ก็สามารถอัพโหลดไปไว้บนคลาวด์ได้เช่นเดียวกัน การเปิดใช้งาน OneDrive นั้นทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ผู้ใช้งานมีบัญชีของ Microsoft หรือบัญชีอีเมล์ ที่ลงท้ายด้วย @outlook.com, @live.com และ @hotmail.com ก็สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกัน
อัตราค่าบริการ
- OneDrive Basic ฟรี (พื้นที่ 5GB)
- OneDrive Standalone 69 บาท/เดือน (100GB)
- Microsoft 365 Personal 209.99 บาท/เดือน (1TB)
- Microsoft 365 Family (ใช้งานได้ 6 คน) 289.99 บาท /เดือน (1TB ต่อ 1 คน)
Google One

หลายคนอาจจะสงสัยว่า Google One คืออะไร โดยเป็นพื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่จาก Google สำหรับผู้ที่ใช้งาน Google Drive แบบเสียค่าบริการ ซึ่งสามารถแชร์พื้นที่ให้คนในครอบครัวได้สูงสุดถึง 5 คน ซึ่งหลังจากวันที่ 1 มิถุนายน 2021 เป็นต้นไป ผู้ใช้บริการ Google Photos ที่มีพื้นที่จัดเก็บภาพเกิน 15GB แล้วต้องการได้พื้นที่เพิ่มเติมจำเป็นต้องเปิดใช้บริการจาก Google One เท่านั้น มิเช่นนั้นจะไม่สามารถอัปโหลดรูปภาพเพิ่มเติมเข้าไปได้ ซึ่งก็มีให้เลือกด้วยกันหลากหลายช่วงราคา รวมไปถึงขนาดความจุ ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นมาใช้งานได้ในทันที เหมาะสำหรับหรับผู้ที่ยังคงคุ้นเคยกับการใช้ Google Photos และไม่ต้องการย้ายไปใช้บริการอื่น ๆ ถือว่าเป็นอีกเว็บฝากไฟล์ที่ดีมากครับ
อัตราค่าบริการ
- ฟรี (15GB)
- 70 บาท/เดือน (100GB)
- 99 บาท /เดือน (200GB)
- 350 บาท /เดือน (2TB)
ตารางเปรียบเทียบบริการฝากไฟล์ออนไลน์ ปี 2021

สรุปจุดเด่นของผู้ให้บริการฝากไฟล์ออนไลน์
• Dropbox รองรับไฟล์ทุกประเภท ใช้งานง่าย แชร์ได้สะดวก มีความปลอดภัยสูง แต่ค่าบริการก็สูงเช่นกัน
• Apple iCloud ใช้งานง่าย ค่าบริการถูก มีการอัปโหลดรูปให้โดยอัตโนมัติ เหมาะสำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ iOS เท่านั้น
• Flickr สามารถแก้ไข/ปรับแต่งรูปภาพ อัพโหลดไฟล์ภาพและวิดีโอความละเอียดสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบแชร์ภาพและทำบล็อค ไม่รองรับไฟล์ประเภทอื่น
• Amazon Photos เข้าถึงได้จากหลากหลายแพลตฟอร์ม มีค่าบริการต่อปีที่ถูก ให้พื้นที่ไม่เยอะ รองรับแค่ไฟล์ภาพและวิดีโอเท่านั้น
• OneDrive ค่าบริการถูก งานร่วมกับ Microsoft Office 365 ได้ รองรับไฟล์หลากหลายชนิด เข้าถึงบริการได้ง่าย เพียงแค่มีอีเมลล์เท่านั้น
• Google One ค่าบริการถูก สามารถเชื่อมต่อกับ Gmail, Google Drive ได้ในทันที สามารถแชร์ไฟล์แบบครอบครัวได้สูงสุด 5 คน มีความปลอดภัยสูง
External Harddisk ช่วยได้
นอกจากบริการข้างต้นแล้ว หากเพื่อนๆ คิดว่าการใช้งาน Cloud Photos เป็นเรื่องยุ่งยากแล้วละก็ การใช้หน่วยความจำภายนอกขนาดพกพาอย่าง SSD หรือก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีขนาดเล็ก สามารถพกพาไปในที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงกว่าฮาร์ดดิสก์เป็นอย่างมาก ทำให้ไม่ต้องรอนานเหมือนในอดีตอีกต่อไป ซึ่งบนเว็บไซต์ Mercular.com ก็มีรุ่นและขนาดความจุให้เลือกซื้ออย่างมากมาย เพื่อตอบสนองงบประมาณและความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภค

สุดท้ายนี้ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ปัจจุบันยังไม่มีเว็บฝากรูปหรือแอปพลิเคชั่นใด สามารถให้พื้นที่ในการจัดเก็บฟรีแบบไม่จำกัด มีเพียงแค่พื้นที่จัดเก็บฟรีเพื่อให้ทดลองงานใช้เพียงเท่านั้น นั่นก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน ว่าจะสะดวกกับการใช้บริการจากเซอร์วิสไหนมากกว่ากัน หากมันคุ้มค่ากับการใช้งานของเราแล้วละก็ การจ่ายค่าบริการเพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ผลิตก็เป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งค่าใช้จ่ายนั้นก็ถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับความสะดวกสบาย แถมยังช่วยประหยัดพื้นที่บนสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ ของเราให้มากขึ้นอีกด้วยครับ