ออกรุ่นใหม่มาอีกรุ่นแล้วกับ ลำโพงคอมพิวเตอร์ ขนาดเล็กกะทัดรัดอย่าง ลำโพง Creative Pebble V3 Bluetooth Speaker ที่นอกจากจะใช้พื้นที่ในการตั้งวางไม่มากแล้วยังมาพร้อมรูปร่างหน้าตาการออกแบบที่ดูน่ารักกับรูปทรงแบบกลมสุดคิวท์ เหมาะกับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัยรวมไปถึงโต๊ะวางคอมพิวเตอร์ทุกขนาด และยังตอบโจทย์การวางควบคู่กับคอมพิวเตอร์ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น PC, Laptop จะแบรนด์ไหนก็เข้ากันได้อย่างง่ายดาย และแม้ว่าจะออกสินค้าใหม่แต่ด้านรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ต่างจากเดิมมากนัก รวมถึงส่วนของราคาก็ด้วยเช่นกันที่ไม่ได้ต่างกันมาก ทำให้ผู้ที่กำลังลังเลว่าจะซื้อลำโพงรุ่นนี้อาจจะยังไม่แน่ใจว่าควรซื้อรุ่นไหนดี เช่นควรซื้อ V2 ดีไหม หรือ 2.1 หรือจะซื้อรุ่นใหม่ไปเลยดี เพราะราคาก็ไม่ได้สูงไปกว่ากันมาก ซึ่งในครั้งนี้ mercular.com ก็ได้รวมรวมเอาสเปคและความสามารถมาเปรียบเทียบให้ได้ตัดสินใจกันแล้วครับว่ารุ่นไหนแตกต่างกันอย่างไร โดยเฉพาะคำถามที่ว่าลำโพงตัวไหนเหมาะกับใคร ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยครับ

ก่อนจะไปดูตารางเปรียบเทียบของ ลำโพง Creative Pebble ทั้ง 3 รุ่น เรามาดูรายละเอียดคร่าวๆ ของลำโพง ลำโพง Creative Pebble แต่ละรุ่นกันครับ ว่าแต่ละรุ่นนั้นมีจุดเด่นยังไง ให้เสปคและฟังก์ชันการใช้งานอะไรมาบ้างเพื่อทำความเข้าใจในตัวลำโพงแต่ละรุ่นครับ

ลำโพง Creative Pebble V2 Speaker เป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับการพัฒนาต่อจาก Pebble รุ่นแรก ซึ่งเป็นลำโพงสำหรับคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จุดเด่นอยู่ตรงที่ดีไซน์การออกแบบที่เรียบง่าย มินิมอล แต่ดูสะดุดตาเป็นอย่างมาก ใช้การเชื่อมต่อผ่าน AUX 3.5 มิลลิเมตร มีการเพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C เพื่อความสะดวกในการใช้งานยิ่งกว่าเดิม พร้อมตัวแปลง USB-C เป็น USB-A ภายในกล่อง ตัวลำโพงประกอบด้วยไดร์เวอร์เสียงฟูลเรนจ์ขนาด 2 นิ้ว และพาสซีฟเรดิเอเตอร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ จึงให้เสียงที่สมบูรณ์แบบ ให้เสียงเบสดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังติดตั้งสวิตช์ปรับค่า Gain ในตัว เพื่อเปิดใช้งานขยายเพิ่มพลังเสียงอะคูสติก 8W RMS ได้สูงสุดที่ 16 W มากกว่าเวอร์ชั่นแรกถึง 2 เท่า โดยไม่ทำให้เสียงแตกแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็นลำโพงราคาประหยัดที่คุ้มค่ากับราคาเป็นอย่างมาก เหมาะกับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะฟังเพลง, เล่นเกม หรือใช้ทำงานก็สามารถทำได้เป็นอย่างดี

ลำโพง Creative Pubble Plus 2.1 Speaker ลำโพงคู่ใช้งานง่ายเสียงดีจาก Creative ที่สามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายด้วยน้ำหนักที่เบามาก ทำให้สามารถพกพาเคลื่อนย้ายและ Set-Up ได้สะดวก และสามารถใช้งานแบบ Plug and Play ทำให้เป็น ลำโพงคอมพิวเตอร์ระบบเสียง Stereo 2.1 ที่สามารถใช้งานได้ค่อนข้างสะดวกนั่นเอง โดยสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น RCA, USB และ AUX 3.5 แต่ไม่ว่าจะเชื่อมต่อแบบไหนก็จำเป็นต้องเชื่อมต่อ USB เพื่อจ่ายไฟให้ตัวลำโพงด้วย การใช้งานหลักๆ จะเป็น Desktop Speaker เพราะต้องเชื่อมต่อ USB เพื่อจ่ายไฟอยู่ตลอดเวลา ตัวลำโพงออกแบบให้เอียงขึ้นมา 45 องศาทำให้สามารถกระจายเสียงออกไปหลายทิศทาง พร้อมด้วยการออกแบบอย่างสวยงาม สามารถปรับโหมดระหว่าง Low Gain และ High Gain ได้เพียงสับสวิทซ์ข้างหลังช่วยเพิ่มคุณภาพเบสให้สนั่นสะเทือนขึ้นไปอีกขั้น สำหรับเกมเมอร์ก็บอกได้เลยว่านี่เป็นลำโพงคอมพิวเตอร์เกมมิ่งในฝันตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้วยราคาที่เรียกได้ว่าเบาสบายๆ และระบบเสียงที่กระหึ่มเกินราคา

Creative Pebble V3 เป็น ลำโพงคอมพิวเตอร์ระบบเสียง Stereo 2.0 มาคราวนี้ได้รับการอัพเกรดฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง พร้อมรูปลักษณ์ทรงกลมสุดมินิมอลเช่นเดิม ไฮไลท์เด่นคือลำโพงรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเสียบสาย AUX/3.5 mm. อีกต่อไป ด้านประสิทธิภาพเสียงมาพร้อมกับไดร์เวอร์ Full range ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 2.25 นิ้ว พร้อมการออกแบบให้ทำมุม 45 องศาเพื่อส่งเสียงตรงสู่หูของคุณ ให้เสียงที่มีคุณภาพ คมชัด และดังกว่า Pebble V2 นอกจากนี้ยังมาพร้อมการประมวลผลเสียง Clear Dialog เพื่อให้เสียงบทสนทนาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ลำโพงมีกำลังขับ 8W RMS แต่มีทีเด็ดซ่อนอยู่ที่ Gain Switch สำหรับปรับเพิ่มพลังเสียงขึ้นไปสูงสุดที่ 16W ให้เสียงที่หนักแน่นและดังมากขึ้น โดยรวมแล้วเรียกว่าเป็นการอัพเกรดสเปคขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าแบบรอบด้าน พร้อมกับคุณภาพเสียงที่ดีและดังกว่า รองรับการใช้งานได้หลากหลายและยืดหยุ่นมากขึ้น ใช้กับคอมก็ดี ใช้กับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็เยี่ยม คุ้มค่า เหมาะสมกับราคาค่าตัว

จากตารางเปรียบเทียบทั้ง 3 รุ่นจะเห็นได้ว่า ทั้ง 3 รุ่นมีข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยไม่กี่ข้อเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนของขนาด ระบบเสียง และการเชื่อมต่อ ซึ่งในภาพรวมการใช้งานอาจจะไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่นักแต่ก็ยังถือว่าแตกต่างกันอยู่ดี โดยสรุปได้ดังนี้ครับ

ขนาดลำโพง

โดยรวม ลำโพง Creative Pebble ทั้ง 3 รุ่นจะเรียกได้ว่ามีขนาดที่เล็กมากๆ อยู่แล้ว แต่ในรุ่น V2 และ Plus 2.1 จะมีขนาดเล็กที่สุดอยู่ที่ 116 x 122 x 115 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นล่าสุดอย่าง V3 จะมีขนาดใหญ่ที่สุด โดยใหญ่ขึ้นมาเล็กน้อยที่ 123 x 120 x 118 ครับ

การเชื่อมต่อ

ลำโพง Creative Pebble V3 จะโดดเด่นกว่าในรุ่น V2 และ Plus 2.1 ตรงที่มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 ทำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่รุ่น V2 และ Plus 2.1 จะรองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายเท่านั้น

ระบบเสียง

หากต้องการระบบเสียงที่ดังกระหึ่มกว่ารุ่นอื่นๆ ต้องยกให้รุ่น ลำโพง Creative Pebble Plus 2.1 เพราะมาพร้อมลำโพง Subwoofer แยกที่จะช่วยขับเสียงเบสให้ดังกระหึ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบเสียง Stereo 2.1 ในขณะที่รุ่นอื่นๆ จะมาพร้อมระบบเสียง Stereo 2.0 เท่านั้น

จากข้อมูลทั้งหมดสรุปได้ว่าหากคุณมีงบที่จำกัดที่สุดไม่ถึง 1,000 บาทและต้องการการเชื่อมต่อแบบมีสายเท่านั้น รวมถึงระบบเสียงที่เป็น Stereo 2.0 ก็เพียงพอ พูดได้ว่าคุณเหมาะกับ ลำโพง Creative Pebble V2 แต่หากต้องการอัพเกรดระบบเสียงให้เพิ่มขึ้นมาเป็น Stereo 2.1 ในขนาดที่เท่ากันกับรุ่น V2 เพิ่มเติมที่ Subwoofer แยกเพื่อเสียงเบสที่ดังกระหึ่มขึ้นกว่าอีก 2 รุ่นก็ขอแนะนำ ลำโพง Creative Pebble Plus 2.1 ครับ แต่ถ้าหากต้องการลำโพงคอมพิวเตอร์ที่ครบครันที่การเชื่อมต่อทั้งมีสายและไร้สาย Bluetooth 5.0 รวมถึงเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดีด้วยไดรเวอร์เสียงที่ใหญ่ถึง 2.5 นิ้ว และมีขนาดลำโพงที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยก็ต้องเป็นรุ่น ลำโพง Creative Pebble V3 เลยครับ