Adapter แปลว่าอะไร คืออะไร มีหน้าที่อะไร

10 มิ.ย. 2564

Adapter แปลว่าอะไร คืออะไร มีหน้าที่อะไร

หลาย ๆ คนคงสงสัยกันไม่น้อยว่า Adapter แปลว่าอะไร ใช้งานอย่างไร และมีหน้าตาอย่างไร โดยทั่วไป Adapter (อะแดปเตอร์) นั่นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายประเภทการใช้งานไม่ว่าจะเป็นอะแดปเตอร์ สำหรับการใช้งานกับ Notebook อะแดปเตอร์สำหรับการใช้งานกับ TV โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ อีกเป็นต้น ซึ่งหากใครที่ยังไม่รู้ว่า Adapter แปลว่าอะไร เรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่าครับ

add line - blog
Adapter คืออะไร ?

Adapter คืออะไร ?

ก่อนที่จะรู้ว่า Adaptor ทำหน้าที่อะไร ใช้งานอย่างไร สิ่งที่ต้องรู้ก่อนคือ Adaptor หรือ อะแดปเตอร์ นั้นแปลว่าอะไร  โดย Adaptor แปลว่า เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับส่วนที่มีขนาดหรือแบบที่แตกต่างกันเพื่อให้เข้ากันได้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่ง Adaptor คือ การแปลงแรงดันของไฟฟ้าที่สูงถึง 220 โวลต์ในบ้านให้เป็นแรงดันไฟฟ้าต่ำที่เสถียรอยู่ที่ 5 โวลต์ถึง 20 โวลต์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ สามารถทำงานได้ตามปกติ ถ้าให้ยกตัวอย่างแบบเห็นภาพได้ชัดเจนก็คือ เป็นตัวปรับต่อ ตัวปรับแผงวงจร ที่มีสายไฟเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หรือกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ซึ่งถ้าหากไม่มีตัว Adaptor ก็จะทำให้ไม่สะดวกต่อการใช้งานอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเราได้ อะแดปเตอร์ นั้นเรียกได้ว่าเป็นแหล่งจ่ายไฟภายนอก เป็นอุปกรณ์แปลงแรงดันไฟฟ้า สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาขนาดเล็กและเครื่องใช้ไฟฟ้า พบได้ทั่วไปในผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กเช่น โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เป็นต้น

Adapter ทำหน้าที่อะไรบ้าง ?

Adapter ทำหน้าที่อะไรบ้าง ?

หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับเจ้าตัว Adaptor กันไปบ้างแล้ว มาดูหน้าที่หลักการทำงานของ Adaptor กันบ้างดีกว่า ว่าจริง ๆ แล้ว Adaptor นั้นมีหน้าที่หลัก ๆ อะไรบ้าง ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าอุปกรณ์ทางด้านอิเล็กทรอนิกส์แทบทุกชนิดล้วนแล้วต้องใช้ไฟกระแสตรง แต่ไฟฟ้าตามบ้านเรานั้นเป็นกระแสสลับ ซึ่งจะมีแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 220 โวลต์ นับว่าเป็นแรงดันไฟฟ้าที่มีค่าสูงเกินไปสำหรับการใช้งานอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ดังนั้นในการทำงานของอะแดปเตอร์ อธิบายได้ง่าย ๆ ก็คือทำหน้าที่ แปลงไฟฟ้า จากไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่มีความต่างศักย์ต่ำลงไป เพื่อให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้นั่นเอง


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเลือกใช้ Adaptor ทั่วไปมีอะไรบ้าง


ต้องบอกเลย Adaptor นับได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากในชีวิตประจำวัน ดังนั้นจำเป็นมากที่ต้องรู้ในการเลือกใช้ หรือหลายสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Adaptor นั้นมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย


1. ความร้อนของ Adaptor ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้งาน อย่างที่ทราบกันว่า Adaptor เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ถึงแม้ว่าจะเป็นไปตามข้อจำกัดอุณหภูมิพื้นผิวที่กำหนดโดยระเบียบข้อบังคับระดับประเทศ มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากลและระดับภูมิภาค แต่อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดทุกอย่างล้วนมีความร้อนในตัว เมื่อเกิดการใช้งานนาน ๆ หรือการสัมผัสพื้นผิวที่อุ่นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจเป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้ เช่น อย่านอนทับอุปกรณ์ อะแดปเตอร์แปลงไฟ ขณะที่ตัวอะแดปเตอร์เสียบไฟและกำลังทำงานอยู่ เป็นต้น


2. มาตรฐานวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ใน Adaptor  ในบางครั้งเราเองก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ข้างในหรือที่อยู่ด้านในตัว Adaptor นั้นเป็นแบบไหน มีลักษณะอย่างไร ผลิตจากอะไรบ้าง เป็นของวัสดุของแท้หรือเปล่า และยิ่งถ้าหากตัวอะแดปเตอร์นั้นเป็นแบบคุณภาพต่ำ หรือเกรดต่ำเกินไป โดยตัว Case ของ Adaptor ที่เป็นพลาสติก สามารถติดไฟได้ง่าย ดังนั้นควรเลือกซื้ออะแดปเตอร์จากแหล่งผลิตที่ไว้ใจได้ และขณะที่ใช้งานควรอยู่ในอุณหภูมิที่พอดีไม่ร้อน หรืออยู่ในแสงแดดจ้าจนเกิน หรือแม้กระทั่งบางครั้งจากการที่ได้สำรวจตรวจเช็ค และได้เดินดูตามท้องตลาดแล้ว ในปัจจุบันนี้มีการพัฒนาการของหลอกเลียนแบบหรืองาน Copy ซึ่งจะมีตั้งแต่งาน Copy เกรด A B C ไปจนถึง D โดยมีลักษณะรูปแบบหน้าตาเหมือนกันเสียจนแทบแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนของจริง หรืออันไหนเป็นของปลอม ดังนั้นในส่วนนี้ผู้ใช้งานโดยทั่วไปอาจจะไม่สามารถวิเคราะห์เองได้ จึงอาจใช้วิธีการดูจากร้านค้าหรือยี่ห้อที่ซื้อที่มีความน่าเชื่อถือ สินค้ามีมาตรฐาน การรับประกันต่าง ๆ เป็นต้น


3. Adaptor ควรผ่านการตรวจสอบก่อน สินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าแทบทุกชนิดตามหลักแล้วควรได้รับการทดสอบ หรือผ่านการ QC มาจากต้นทางของผู้ผลิตแล้วทุกครั้ง แต่โดยบางครั้งผู้ผลิตทำออกมาขายอาจจะไม่ได้ผ่าน QC เพราะเนื่องอาจจะลดค่าแรง ลดเวลา ทำให้ราคาอะแดปเตอร์ถูกลงกว่าท้องตลาด ดังนั้นควรทดสอบการใช้งาน Adaptor จากทางร้านก่อนซื้อทุกครั้ง


4. ห้ามใช้ Adaptor ในที่เปียก อีกสิ่งที่สำคัญมากคือ ไม่ควรใช้ Adaptor ใกล้บริเวณอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ และไม่ควรใช้มือที่เปียกอยู่เสียบหรือถอดอะแดปเตอร์

วิธีดู Adaptor สำหรับชาร์จมือถือ มีอะไรบ้างที่ต้องรู้ ?

วิธีดู Adaptor สำหรับชาร์จมือถือ มีอะไรบ้างที่ต้องรู้ ?


โดยปกติแล้ว เวลาที่เราซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต เครื่องใหม่ ก็จะมี Adaptor สายชาร์จของแท้มาให้ครบจบในกล่องเดียว แต่ปัจจุบันอย่างที่รู้ ๆ ว่าโทรศัพท์มือถือ บางรุ่น บางยี่ห้อ ก็ไม่ได้แถมเจ้าตัว Adaptor มาให้ในกล่องเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว หรือแม้กระทั่งการซื้อโทรศัพท์ มือสองก็ใช้ว่าจะได้ Adaptor สายชาร์จของแท้มาเสมอไป ดังนั้นหากต้องซื้อ Adaptor สำหรับชาร์จมือถือมีอะไรบ้างที่เราต้องรู้ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ


1. สิ่งแรกที่เราควรรู้จักอุปกรณ์ของเราก่อนก็คือ เราต้องรู้ว่าอุปกรณ์ของเราเป็นอุปกรณ์ประเภทใด เช่น มือถือ หรือแท็บเล็ต เพื่อที่จะได้เลือกซื้อ Adaptor ให้ตรงต่อจุดประสงค์ในการใช้งานสำหรับชาร์จได้อย่างเหมาะสม


2. mAh หรือภาษาไทยมักเรียกว่า มิลลิแอมป์ คือหน่วยวัด มิลลิแอมป์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการวัดปริมาณความจุของแบตเตอรี่ เพื่อบอกความจุของแบตเตอรี่ อย่างเช่น iPhone 12 Pro Max Battery ความจุอยู่ที่ 3,687 mAh เป็นต้น


3. Amps หรือ แอมป์ คือแรงดันของกระแสไฟฟ้าที่ทำหน้าที่วิ่งเข้าไปยังแบตเตอรี่ ซึ่งจะมีค่า Output หรือ Input ไฟเข้า-ไฟออก อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราเอาหัวชาร์จเสียบปลั๊กไฟ (ไฟจะเข้าไปที่หัวชาร์จ) และเมื่อเอาสายชาร์จ ต่อเข้ากับมือถือ (ไฟจะออกจากหัวชาร์จ) โดยค่าแอมป์ ก็คือ 1.0A หมายถึง มีค่าแรงดันไฟฟ้า 1.0 Amp ถือเป็นค่ามาตรฐานปกติของการชาร์จมือถือทั่วไปในสมัยก่อน แต่สำหรับปัจจุบันแล้วนั้นถือว่าเป็นการชาร์จที่ช้ามาก ๆ แนะนำให้ใช้หัวชาร์จแบบมาตรฐานเป็น 2.0 Amps และ 2.1 Amps โดยค่าสูงสุดที่หัวชาร์จจะสามารถจ่ายไฟได้ก็คือ 2.4 Amps ดังนั้น เมื่อเวลาเลือกหัวชาร์จ ควรเลือก หัวชาร์จที่สามารถรองรับการชาร์จอยู่ที่ 2A ขึ้นไปจะดีที่สุด


4. Voltage คือ ค่าแรงดันไฟที่เข้าชาร์จประจุไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ ส่วนใหญ่จะเป็น 5 Volts (5 โวลต์) ซึ่งถ้าหากเป็น Fast Charge หรือ Quick Charge ต้องดูที่ V หรือ Voltage ไม่ได้ดูแค่แอมป์เท่านั้น 


5. Output ค่าของการจ่ายไฟที่ชาร์จอุปกรณ์เสริมมือถือต่าง ๆ ยกตัวอย่าง เช่น 5V / 2.0A (เรียกกันว่า 5 โวลต์ 2 แอมป์) 


6. Input ค่าของการชาร์จไฟ เช่น 5V / 2.1A

สิ่งที่ต้องระวังและควรหยุดใช้เมื่อ Adaptor มีปัญหาหรืออาการเหล่านี้


  • บริเวณปลั๊กหรือขาของอะแดปเตอร์ตกหล่น แตกหัก ร้าว หรือได้รับแรงกระแทกจนเกิดความเสียหายไม่ควรใช้ต่อเพราะอาจทำให้ไฟรั่วซึมได้ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้


  • ตัวอะแดปเตอร์ได้รับความชื้นมากเกินไป หรือมีของเหลวอยู่ภายในอะแดปเตอร์


  • อะแดปเตอร์มีควันหรือมีกลิ่นไหม้ กรณีนี้อาจเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัยไม่ว่าจะเป็นความร้อนที่มาจากตัวอะแดปเตอร์ สภาพแวดล้อม หรือ Case ที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นถ้ามีอาการเหล่านี้รีบหยุดใช้งานทันทีเพราะนอกจากจะก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์แล้วยังเป็นอันตรายต่อตัวเราเองได้ด้วยเช่นกัน
Adapter แปลว่าอะไร คืออะไร มีหน้าที่อะไร

เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ ข้อมูลเกี่ยวกับ Adaptor สรุปแล้ว Adaptor นั้นนับว่ามีความสำคัญมาก ๆ ต่อการใช้งานเพื่อเชื่อมต่อกับอิเล็กทรอนิกส์ ต่าง ๆ ซึ่งหากเรารู้จักกับเจ้าตัว Adaptor ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคุณสมบัติการใช้งานแล้ว ก็จะสามารถเลือกใช้งาน Adaptor ได้อย่างถูกต้องตรงต่อจุดประสงค์ที่เราต้องการ สำหรับบทความนี้ทางทีมงานหวังจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากมีข้อมูลใหม่ ๆ ที่น่าสนใจทางทีมงานจะรีบมาแนะนำอย่างแน่นอนครับ

article-banner-1
article-banner-2