5 จอคอม Samsung รุ่นไหนดี ภาพสวย สีตรง สำหรับสายทำงาน
Color Gamut คืออะไร ? เลือกจอทำงานตัวใหม่ให้ตรงสาย
Share
9 ส.ค. 2567

จะเลือกซื้อจอทำงานสีตรง สีสวยทั้งที แต่พอไปดูเทียบสเปกก็เจอแต่ตัวเลข ตัวอักษร จนงงไปหมด แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ วันนี้พวกเรา mercular จะมาบอกวิธีเลือกจอทำงานสีตรงที่เหมาะกับงานระดับมืออาชีพ กับ Color Gamut คืออะไร ? เลือกจอทำงานตัวใหม่ให้ตรงสาย ที่จะมาแกะสเปกในเรื่องขอบเขตสีที่จอมอนิเตอร์จะทำได้กัน บอกเลยว่าอ่านจบ เข้าใจ พร้อมเลือกจอทำงานตัวใหม่แน่นอนครับ
Color Gamut คืออะไร ?
สำหรับคำว่า Color Gamut จะหมายถึง ขอบเขตของสีที่อุปกรณ์อย่างจอคอมพิวเตอร์ จอทีวีหรือเครื่องปริ้นเตอร์สามารถแสดงออกมาได้ครับ โดยจะเขียนกำกับไว้ในรูปของเปอร์เซ็น เช่น 99% sRGB หรือ 99% DCI-P3 ที่หมายความว่า แสดงขอบเขตสีออกมาได้ทั้งหมด 99% จาก 100% ของขอบเขตสีที่ประเภทนั้น ๆ ครอบคลุมอยู่ ซึ่งเมื่อพูดถึงสีที่สามารถแสดงออกมาได้ เราก็ต้องมาทำความรู้จักกับพื้นที่ทั้งหมดของสี อย่าง Color Space กันก่อน
โดย Color Space หลัก ๆ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นสีกันจะมีอยู่ 3 แบบคือ RGB (Red, Green, Blue) ที่มักจะใช้ในคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์และสื่อดิจิทัล เป็นประเภทที่เจอได้บ่อยที่สุดอย่างพวก sRGB, Adobe RGB, DCI-P3, หรือ NTSC เป็นต้น Color Space อีกแบบที่ใช้กันตอนนี้คือ CMYK (Cyan, Magenta, Yellow, Black) ที่มักจะใช้อยู่ในปริ้นเตอร์และสื่อสิ่งพิมพ์ มีความแม่นยำสูงเมื่อใช้พิมพ์ลงบนวัตถุจริง ๆ โดยเป็นการผสมสีของหมึกทั้ง 4 สีข้างต้น
และมี Color Space เสริมที่ใช้เพิ่มเติมในงานแต่งภาพและทำกราฟิกอย่าง HSV / HSL (Hue, Satuation, Values/ Lightness) ซึ่งจะแบ่งออกเป็น Hue ค่าสีสันแท้ ๆ ที่ใช้งาน / Satuation ค่าความสดของสี และ Lightness ค่าความสว่างของสี โดยจะใช้ควบคู่กับ RGB เพื่อปรับแต่งสีให้เข้ากับการรับรู้สีของมนุษย์ ออกมาเป็นสีที่ตรงตามการใช้งานที่สุด

ประเภทของ Color Gamut ที่ใช้กันในปัจจุบัน
ดังนั้น Color Gamut ที่เราเคยเห็นจะตั้งอยู่บน RGB เป็นหลักครับ โดยแต่ละแบบนั้นจะครอบคลุมพื้นที่สีบน RGB ได้แตกต่างกัน ตามภาพด้านบนเลยครับ โดยขอบเขตสีแต่ละแบบที่เราจะเห็นบนสเปกจอมอนิเตอร์ในปัจจุบันจะมี ดังนี้ครับ
- sRGB (Standard RGB): ขอบเขตสีมาตรฐานที่จะเห็นบนจอมอนิเตอร์แทบทุกตัว ทั้งจอทำงานและจอเกมมิ่ง เป็น Color Gamut ที่ใช้แพร่หลายที่สุด นำไปใช้งานง่าย ถึงจะครอบคลุมพื้นที่สีน้อยที่สุดแต่สีที่ครอบคลุมนั้นก็เหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วครับ
- NTSC (National Television System Committee): ขอบเขตสีที่เป็นมาตรฐานในสมัยก่อน เป็น Color Gamut ที่ใช้ในโทรทัศน์รุ่นเก่าและสื่อวิดีโอบางชนิด โดยมีขอบเขตสีที่ครอบคลุมกว้างกว่า sRGB แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นที่นิยมแล้ว
- Adobe RGB: ขอบเขตสีจาก Adobe ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานกราฟิกและสื่อสิ่งพิมพ์ระดับสูง สามารถครอบคลุมเฉดสีได้กว้าง มีสีสันที่สด ใกล้เคียงกับความจริง โดยเฉพาะในเฉดสีเขียวและสีน้ำเงิน ทำให้จอมอนิเตอร์ที่แสดง Color Gamut นี้ได้เยอะ จะเหมาะกับการใช้งานในงานแต่งรูปภาพและงานเกรดสีครับ
- DCI-P3 (Digital Cinema Initiatives - Protocol 3): ขอบเขตสีที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลอื่น ๆ เป็นมาตรฐานสีที่ใช้กันในโรงภาพยนตร์ มีพื้นที่สีที่ครอบคลุมได้กว้างกว่าทั้ง sRGB และ Adobe RGB สามารถแสดงสีออกมาได้สวยเกินจริง เหมาะกับการนำไว้ใช้รับชมหนัง ภาพยนตร์สวย ๆ และใช้ในการตัดต่อสื่อวิดีโอ
- REC.2020: ขอบเขตสีที่ใช้ในอุตสาหกรรมทีวีแบบ UHDTV (Ultra High Definition TV) หรือทีวีที่มีความละเอียดสูงลิบ โดยจะครอบคลุมพื้นที่สีได้กว้างมาก ๆ ให้ตอบสนองการรับชมภาพยนตร์แบบ HDR ที่เต็มไปด้วยสีสันที่สดและความสว่างที่ลึกมีมิติ เป็น Color Gamut ที่พัฒนาต่อจาก REC.709 ที่ใช้ในทีวี HD ธรรมดาในยุคก่อนหน้าครับ

ค่า Delta E สำคัญแค่ไหน ?
ที่นี้ถ้าเพื่อน ๆ กำลังตามหา “จอทำงานระดับมืออาชีพ” สิ่งที่ต้องมองหาอีกอย่างหนึ่งเลยคือ ค่า Delta E หรือ ∆E มาตรฐานการวัดความผิดเพี้ยนของสีที่ CIE จัดทำขึ้น ที่จะแสดงถึงความแตกต่างของสี ระหว่างสีที่จอแสดงออกมาได้กับสีที่ควรจะเป็นจริง ๆ ยิ่งมีตัวเลขน้อยเท่าไหร่ ยิ่งแสดงว่าสีที่จอแสดงได้นั้นแทบแยกความแตกต่างไม่ได้เลย โดยจากคู่มือของคุณ Zachary Schuessler ได้ให้รายละเอียดไว้ดังนี้ครับ
Delta E Level | |
≤ 1,0 | ตามนุษย์นั้นแทบจะแยกความแตกต่างไม่ได้เลย |
1 - 2 | สามารถแยกความแตกต่างของสีได้แต่ต้องสังเกตใกล้ ๆ |
2 - 10 | สามารถแยกความแตกต่างของสีได้เมื่อมองผ่าน |
11 - 49 | สีที่แสดงออกมานั้นมีความคล้ายกับสีต้นฉบับ |
100 | สีที่แสดงออกมานั้นไม่เหมือนกับสีต้นฉบับเลย |
Delta E ยิ่งตัวเลขน้อยยิ่งดี สียิ่งแม่นยำเหมาะกับการใช้ทำงาน
ขอบคุณข้อมูลจาก: Zschuessle

สรุปวิธีการเลือกจอตัวใหม่ให้ตรงการใช้งาน
สำหรับทำงานกราฟิก งานเกรดสี แต่งรูปภาพ
สำหรับดีไซน์เนอร์และช่างกล้อง ต้องการจอมอนิเตอร์ที่มีสีแม่นยำ นำไปใช้งานต่อได้ สามารถพิมพ์ออกมาโดยที่สีไม่เพี้ยน ทำให้ควรมองหาจอที่มีค่า AdobeRGB สูงมากกว่า 95% และมี Delta E < 2 เพื่อให้ชิ้นงานที่ผลิตออกมามีสีสันที่เที่ยงตรง ส่งต่อให้ลูกค้าได้ไม่โดนแก้บ่อย ๆ ครับ ยิ่งในกล้องสมัยนี้มักสามารถตั้งค่าสีฟอร์แมตให้เป็น AdobeRGB จะยิ่งช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ
จอคอมทำงานสีตรง ที่แนะนำ
สำหรับงานตัดต่อวิดีโอ งานที่เกี่ยวกับสื่อดิจิทัล
สำหรับสายตัดต่อทั่วและต้องทำงานผลิตสื่อดิจิทัลลงเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ นั้น Color Gamut ที่ได้ใช้บ่อยยังไงก็ต้องเป็น sRGB ครับ มองหาจอที่มีค่าสีเกิน 100% ไปได้เลย ขอบเขตสีมาตรฐานที่ทุกคนใช้กัน งานสวยที่จอเราและสวยที่จอเขาแน่นอน ส่วนใครที่ทำงานระดับ High ขึ้นมาก็ให้มอง DCI-P3 ควบคู่ไปด้วยครับ ใช้สำหรับตัดต่องานระดับสูง ๆ เน้นสีสันและเงาที่มีมิติ ช่วยให้จัดองค์ประกอบต่าง ๆ ในวิดีโอของเราง่ายขึ้นครับ
จอทำงานภาพสวย ที่แนะนำ
- จอคอม Dell UltraSharp U2723QE 27" IPS 4K Monitor 60Hz
- จอคอม BenQ PD2725U 27" IPS 4K Monitor 60Hz
- จอคอม ViewSonic VP2756-4K 27" IPS 4K Monitor 60Hz

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก BenQ
สุดท้ายแล้วการเลือกซื้อจอทำงานเฉพาะทางดี ๆ สักตัวก็จำเป็นต้องเลือกจากเป้าหมายที่เราจะนำไปใช้ก่อน เพราะแต่ละตัวแต่ละแบบนั้นจะมีสเปกเฉพาะทางที่เหมาะสมกันไปคนละแบบ ยิ่งในจอทำงานระดับ Hi-End เหล่านี้มักจะมาในราคาที่สูงมาก ๆ ถึงแม้จะมีราคาสูง แต่ฟีเจอร์ที่แถมมาให้นั้นก็กล้าบอกเลยว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอนครับ ช่วยอำนวยความสะดวกได้ดีสุด ๆ บางจอแทบจะเป็น USB Hub ในตัวได้เลย ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ สนใจจะหาจอทำงานระดับมืออาชีพก็ไว้ใจ mercular ได้เลย เรามีสินค้าจากแบรนด์ดัง สเปกยอดเยี่ยมที่เหมาะกับการใช้ทำงานมากมาย มาพร้อมกับรีวิวและประกันหลังการขายที่บอกเลยว่าหายห่วง สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน สวัสดีครับ



คีย์บอร์ด Ajazz AK820 Max Plus Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH)


จอคอม Acer RS242Y G0bpamix 23.8" IPS FHD Monitor 120Hz


จอคอม Acer EK251QGbmix 24.5" IPS FHD Monitor 120Hz


จอคอม Acer VG240Y X1bmiipx 23.8" IPS FHD Monitor 200Hz


จอคอม Dell U3223QZ 31.5" IPS 4K FHD Monitor 60Hz