MagSafe มีดียังไง ใช้กับ iPhone รุ่นไหนได้บ้าง

15 ก.ค. 2564

MagSafe มีดียังไง ใช้กับ iPhone รุ่นไหนได้บ้าง

เมื่อชีวิตไร้สาย ความสะดวกสบายก็เพิ่มมากขึ้น และถ้าสังเกตดูให้ดีจะพบว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตออกมาใหม่ มักจะทำให้เป็นแบบไร้สาย มีขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา เพื่อให้เหมาะสำหรับการพกพาติดตัว แล้วก็มีผลพลอยได้ในแง่ของการดูแลรักษาที่ง่ายขึ้นตามไปด้วย “MagSafe” ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ไร้สายที่ถูกพูดถึงอย่างมากหลังจาก Apple ได้เปิดตัว iPhone 12 ไปไม่นานเท่าไร หลายคนได้ยินชื่อนี้มาบ้างแล้ว แต่อาจยังไม่รู้ในรายละเอียดว่ามันคืออุปกรณ์เสริมประเภทไหน ใช้ยังไง มีประโยชน์ยังไงกันแน่ และเราจำเป็นจะต้องซื้อหามาลองใช้ดูหรือไม่ เรามาลองทำความรู้จักอุปกรณ์ตัวนี้ให้มากขึ้นจากบทความนี้กันครับ

รู้จักกับ MagSafe ตัวช่วยใหม่ที่จะทำให้การชาร์จไฟรวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น

รู้จักกับ MagSafe ตัวช่วยใหม่ที่จะทำให้การชาร์จไฟรวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น

MagSafe คือแท่นชาร์จแบบไร้สายที่มีลักษณะเป็นวงกลมขนาดเล็ก คล้ายคลึงกับแท่นชาร์จของ Apple Watch แต่ว่ามีเส้นผ่านศูนย์กลางที่ใหญ่กว่า เพื่อให้เหมาะกับขนาดของอุปกรณ์ที่ใหญ่ขึ้นอย่าง iPhone นั่นเอง ความจริงแล้วผลิตภัณฑ์ในซีรี่ส์ MagSafe ถือว่ามีมาระยะหนึ่งแล้ว ถูกนำมาใช้งานกับ MacBook เป็นหลัก แต่อาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก ด้วยลักษณะการใช้งาน MacBook ที่แท่นชาร์จแบบเดิมตอบโจทย์ได้ดีกว่า และแบตเตอรี่ของ MacBook หลังชาร์จไฟจนเต็มก็สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน จึงไม่ต้องพกอุปกรณ์ชาร์จติดตัวไปด้วยก็ได้ จนกระทั่งมีการเปิดตัว MagSafe รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับ iPhone โดยเฉพาะ ครั้งนี้กลับให้ผลลัพธ์ที่ต่างไป เพราะมันกลายเป็นอุปกรณ์เสริมที่เติมเต็มความต้องการในด้านความสะดวกและความคล่องตัวได้พอดี บวกกับราคาย่อมเยาที่ไม่ได้ฉีกไปจากที่ชาร์จแบบมีสายมากนัก เลยทำให้สินค้าชนิดนี้ได้เสียงตอบรับที่ดีมากทันทีหลังการเปิดตัว นอกจากนี้ทาง Apple ยังได้ออกอุปกรณ์เสริมชนิดอื่นที่จะนำมาใช้งานร่วมกับ MagSafe ด้วย เช่น เคสซิลิโคนที่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ซองใส่บัตรแบบแม่เหล็กสำหรับติดด้านหลังสมาร์ทโฟน เป็นต้น สาย Gadget จึงมีอะไรใหม่ๆ ให้เล่นกันอีกเยอะเลยครับ

ประสิทธิภาพของ MagSafe ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าเกินราคา

ประสิทธิภาพของ MagSafe ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่าเกินราคา

ขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ในเครือของ Apple แล้ว MagSafe ย่อมไม่ได้มีดีแค่เรื่องงานดีไซน์อย่างแน่นอน ภายใต้รูปลักษณ์เรียบหรูแบบมินิมอล แฝงไว้ด้วยระบบการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงมาก และเชื่ออย่างยิ่งเลยว่าเมื่อทุกคนได้รู้ถึงคุณสมบัติของ MagSafe จนครบถ้วนแล้ว ก็จะต้องอยากหามาใช้อย่างแน่นอน


1. ชาร์จไฟได้รวดเร็ว ใช้งานได้หลากหลาย


อย่างแรกเลยก็คือการชาร์จไฟให้กับสมาร์ทโฟนรุ่น iPhone 12 สามารถจ่ายไฟได้อย่างเต็มที่ด้วยกำลังสูงสุด 15W ขณะที่แท่นชาร์จทั่วไปจะจ่ายไฟได้เพียงแค่ 7.5W เท่านั้น MagSafe จึงช่วยลดระยะเวลาในการชาร์จไฟได้เป็นเท่าตัว และเมื่อซื้อแท่นชาร์จ MagSafe มาแล้ว ก็ใช่ว่าจะใช้ได้กับ iPhone เท่านั้น แต่สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ชนิดอื่นได้ด้วย อย่างเช่น AirPods, Android, หูฟังแบบ Wireless เป็นต้น โดยการปรับโหมดทำงานให้เข้ากับอุปกรณ์ที่เราต้องการเชื่อมต่อ แล้ว MagSafe ก็จะปรับลดกำลังไฟให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยกับอุปกรณ์ชิ้นนั้นเอง เรียกว่าพก MagSafe เพียงแค่ชิ้นเดียว ก็สามารถชาร์จไฟให้กับทุกอุปกรณ์ที่เรามีได้เลย ขอแค่อยู่บนเงื่อนไขที่ว่า อุปกรณ์เหล่านั้นรองรับการชาร์จแบบไร้สายได้แล้ว


2. ควบคุมระดับความร้อนได้ยอดเยี่ยม


อีกประเด็นหนึ่งที่การชาร์จไฟทุกรูปแบบต้องเจอก็คือ ความร้อนสะสมที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าปกติเวลาชาร์จไฟ ต้องบอกก่อนว่าไม่มีเครื่องชาร์จประเภทไหนเลยที่จะตัดความร้อนให้เหลือค่าเป็นศูนย์ได้ อยู่ที่ว่าจะจัดการอย่างไรให้ความร้อนไม่มากจนถึงระดับที่สร้างความเสียหายให้อุปกรณ์ของเราได้ อย่าง MagSafe รุ่นใหม่นี้ ก็มาพร้อมกับระบบป้องกันความร้อนที่ดีมาก เมื่อตรวจพบว่าความร้อนเกินขีดจำกัดตัวเครื่อง MagSafeก็จะทำการลดปริมาณการจ่ายไฟลงเล็กน้อย เพื่อคุมความร้อนให้พอดีก่อน แล้วค่อยกลับไปจ่ายไฟในปริมาณเท่าเดิมอีกครั้งถ้าแบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนยังไม่เต็ม ดังนั้นเราจึงสามารถใช้งาน iPhone ของเราไปพร้อมกับการชาร์จไฟได้ด้วย แม้น้ำหนักจะมากกว่าปกติเล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ถือได้อย่างสะดวกอยู่


3. ยึดติดกับอุปกรณ์และมีความแข็งแรงทนทาน


ถ้าใช้ MagSafe ชาร์จไฟให้กับ iPhone 12 ไม่ว่าจะเป็นตัวใดในซีรี่ส์นี้ก็ตาม MagSafe จะดูดติดกับด้านหลังของสมาร์ทโฟนได้อย่างแน่นหนา ระหว่างการชาร์จจึงไม่ต้องกังวลว่ามันจะหลุดออก แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นจะดูดไม่ติด เนื่องจากตัวเครื่องไม่ได้มีการออกแบบส่วนของแผ่นแม่เหล็กเอาไว้ ขณะที่ทำการชาร์จจึงต้องวางใช้วิธีวางบน MagSafe แทน หรือไม่ก็ต้องใช้เคสที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับแท่นชาร์จรุ่นนี้แทน นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องความทนทาน วัสดุที่ใช้ในการผลิตเป็นวัสดุคุณภาพสูง สามารถทนต่อการเกิดรอยขูดขีดได้ในระดับหนึ่ง

รุ่นของ iPhone ที่สามารถใช้งานกับ MagSafe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รุ่นของ iPhone ที่สามารถใช้งานกับ MagSafe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะรู้แล้วว่า ถ้าไม่ใช่ iPhone 12 ซึ่งแนะนำให้ใช้กับ MagSafe อยู่แล้ว iPhone รุ่นไหนบ้างที่สามารถใช้งานกับแท่นชาร์จไร้สายนี้ได้ จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ทาง Apple แจ้งไว้ก็คือ MagSafe สามารถใช้กับ iPhone ได้ทุกรุ่นที่ใหม่กว่า iPhone 8 ก็คือเริ่มตั้งแต่ iPhone 8, iPhone 8 Plus, iPhone X, iPhone XR, iPhoneXS Max, iPhone SE, iPhone ซีรี่ส์ 11 ทั้งหมด และ iPhone ซีรี่ส์ 12 ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่ลืมว่า ฟังก์ชั่นการดูดติดด้านหลังตัวเครื่องของ MagSafe จะใช้ได้กับ iPhone ซีรี่ส์ 12 เท่านั้น


แต่อย่างไรก็ตามภายในกล่องผลิตภัณฑ์ของ MagSafe จะไม่ได้ให้ส่วนที่เป็นอะแดปเตอร์แปลงไฟมา แต่ให้มาเพียงแค่แท่นชาร์จและสายชาร์จเท่านั้น เราจำเป็นต้องซื้ออะแดปเตอร์เพิ่มเอง ซึ่งก็ควรเป็นของแท้ในค่ายของ Apple และควรมีขนาดของกำลังไฟมากกว่า 20W ขึ้นไป เพื่อให้กำลังการจ่ายไฟมากเพียงพอ และมีความเสถียรของกระแสที่ไหลเข้าเครื่องตลอดระยะเวลาการใช้งาน ถ้าฝืนใช้อะแดปเตอร์ที่กำลังไฟต่ำกว่านี้ ไม่นานก็จะทำให้แท่นชาร์จไร้สายที่พึ่งซื้อมาใหม่เสียหาย แถมยังส่งผลกระทบไปถึงสมาร์ทโฟนของเราอีกด้วย หากไม่แน่ใจว่าควรใช้อะแดปเตอร์รุ่นไหนก็สามารถสอบถามกับพนักงานขายโดยตรงได้เลยครับ

MagSafe มีดียังไง ใช้กับ iPhone รุ่นไหนได้บ้าง

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับความรู้เรื่องในเรื่องของเทคโนโลยี MagSafe ที่จะเข้ามาให้การใช้อุปกรณ์เครื่องโปรดจาก Apple ของคุณ ง่ายดายและสะดวกเข้าไปอีก หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจซื้อสินค้าประเภท MagSafe ของแท้ คุณภาพเยี่ยม มาใช้งาน ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่หน้าเว็บไซต์ Mercular.com ได้ตลอดเวลาเลยครับ แล้วพบกับบทความที่น่าสนใจจากเราได้ใหม่ในโอกาสหน้าครับ

article-banner-1
article-banner-2