ไมค์ลอย vs ไมค์สาย แบบไหนน่าใช้กว่ากัน

23 ก.พ. 2565

ไมค์ลอย vs ไมค์สาย แบบไหนน่าใช้กว่ากัน

ไมโครโฟนในปัจจุบันมีหลายประเภททั้ง ไมค์ไดนามิก ไมค์คอนเดนเซอร์ ไมค์ริบบอน ไมค์ซ็อตกัน แต่ประเภทที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเข้าถึงง่ายที่สุดก็คือไมค์ไดนามิก และไมค์ประเภทนี้ก็มีการเชื่อมต่อทั้งแบบใช้สายและแบบไร้สาย (หรือที่เรียกว่ากันไมค์ลอย) ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น ถ้าเราอยากจะซื้อไมค์ไดนามิกสักตัวควรเลือกแบบไหนดี? ไมค์ลอยกับไมค์สายแตกต่างกันอย่างไร? ไมค์ลอยดีกว่าจริงหรือ? Mercular.com อยากชวนผู้อ่านทุกท่านมาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ

ไมค์ลอย

ความแตกต่างระหว่างไมค์ลอยกับไมค์สาย

ไมโครโฟนในปัจจุบันแยกออกเป็นหลายประเภทซึ่งการเชื่อมต่อพื้นฐานคือต่อผ่านสายสัญญาณ เราจึงสามารถเรียกไมค์ทุกประเภทได้ว่าเป็นไมค์แบบมีสาย แต่ถ้าเรียกเฉพาะจงเจาะเป็นไมค์ลอยส่วนใหญ่จะพบอยู่ในไมโครโฟนประเภทไดนามิก ดังนั้นในบทความนี้ Mercular.com จะขอลงรายละเอียดของไมค์ประเภทนี้เป็นหลักนะครับ


ความแตกต่างระหว่างไมค์ลอยกับไมค์สายหลักๆ ก็คือการเชื่อมต่อ ไมค์สายจะใช้สายสัญญาณมาต่อที่ตัวไมค์เพื่อรับส่งข้อมูลเสียงไปสู่ปรีแอมป์ เข้าสู่ภาคขยายหรือพาวเวอร์แอมป์ และออกสู่ลำโพงตามลำดับ ขณะที่ไมค์ลอยจะใช้การส่งข้อมูลเสียงแบบไร้สายแทนการใช้สายสัญญาณมาเสียบที่ตัวไมค์ ไมค์ลอยจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับเครื่องรับสัญญาณซึ่งคุณภาพสัญญาณจะขึ้นอยู่กับสเปคของไมค์และอีกหลายๆ ปัจจัย เช่นคลื่นความถี่ สภาพพื้นที่ ระยะทาง เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม การใช้งานไมค์ลอยจะมีเรื่องของคลื่นความถี่มาเกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันทาง กสทช. กำหนดให้ไมค์ลอยทุกรุ่นใช้คลื่นความถี่ใน 3 ช่วง คือ 694 – 703MHz, 748 – 758MHz และ 803 – 806MHz ดังนั้นก่อนซื้อไมค์ลอยตัวใหม่อาจต้องดูช่วงความถี่ที่ไมค์รุ่นนั้นใช้งานได้ตามที่ทาง กสทช. กำหนด หรืออีกทางเลือกคือใช้ไมค์รุ่นที่รองรับย่านความถี่ดิจิตอล 2.4GHz แต่ต้องระวังการรบกวนโดยสัญญาณ Wi-Fi และอาจจะมีความหน่วง (Latency) ที่มากกว่า

ไมค์ลอย

ข้อดีของไมค์ลอย

ข้อดีของไมค์ลอยหรือไมค์ไร้สายแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของความสะดวกในการใช้งานเนื่องจากไม่มีสายสัญญาณให้เกะกะ ไม่ต้องกลัวสะดุดสายล้ม ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ และยังให้ภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย ไมค์ลอยสามารถใช้งานได้หลายระยะตั้งแต่ระยะใกล้จนถึงระยะไกลระดับ 100 เมตร (ต้องเป็นสถานที่โล่งแจ้งไม่มีสิ่งบดบัง) นอกจากนี้ไมค์ลอยประเภทไดนามิกยังมีให้เลือกทั้งไมค์เดี่ยว ไมค์คู่ ไปจนถึงชุดไมค์ลอย 4 ตัวเชื่อมต่อกับเครื่องรับสัญญาณตัวเดียวกัน ช่วยอำนวยความสะดวกในกรณีมีผู้พูดหลายคนยืนพูดอยู่คนละจุด หรือร้องเพลงร่วมกันหลายคนบนเวที ในส่วนของราคาไมค์ลอยตอนนี้ก็มีให้เลือกหลายระดับตั้งแต่หลักพันยันหลักแสนตามคุณภาพและสเปค  


ในเรื่องของความถี่ไมค์ลอยก็มีให้เลือกใช้งานหลากหลายช่วง เช่น ย่านความถี่ 694 – 703MHz, ย่านความถี่ 748 – 758MHz, ย่านความถี่ 803 – 806MHz และย่านความถี่ดิจิตอล 2.4GHz ไมค์ลอยสามารถปรับเปลี่ยนชาแนลและเซ็ตอัพค่าต่างๆ ได้มากมายไม่ต่างจากไมค์สาย สามารถปรับเสียงเพิ่ม/ลดความดัง ความทุ้ม/แหลม ความก้องกังวาน ใส่เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้ บางรุ่นบางยี่ห้อสามารถเปลี่ยนเฉพาะหัวไมค์เพื่อเพิ่มคุณภาพเสียงให้ดีขึ้นก็ได้


อย่างไรก็ตาม ไมค์ลอยก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกันเพราะในชุดต้องมีอุปกณร์ต่อพ่วงหลายชิ้น การเซ็ตอัพใช้เวลามากกว่าไมค์สายและอาจต้องใช้ทักษะความรู้ความเข้าใจในการเชื่อมต่อที่มากกว่า ไมค์ลอยใช้พลังงานจากถ่าน 9v, ถ่าน AA หรือบางรุ่นก็มีแบตเตอรี่ในตัว จึงใช้งานได้ในระยะเวลาจำกัด เมื่อแบตฯ หมดต้องเปลี่ยนหรือชาร์จไฟใหม่ทำให้ไม่สามารถใช้งานต่อเนื่องรวดเดียวยาวๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีมีปัญหาเรื่องคลื่นรบกวน การขาดหายของสัญญาณ ความเสถียรของสัญญาณ ความหน่วงของเสียง ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาขณะใช้งาน และสุดท้ายราคาไมค์ลอยจะสูงกว่าไมค์สายหากเป็นรุ่นหรืออยู่ในซีรีย์เดียวกัน


ไมค์ลอย

ข้อดีของไมค์สาย

จุดเด่นของไมค์สายหลักๆ คือความง่ายในการเชื่อมต่อเนื่องจากมีอุปกรณ์ต่อพ่วงน้อยกว่า ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีความทนทาน ราคาถูกกว่าไมค์ลอย (เทียบสเปคในระดับเดียวกัน) และมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักหมื่นบาทขึ้นอยู่กับสเปคและคุณภาพเสียง นอกจากนี้ยังสามารถอัพเกรดคุณภาพสายได้ไม่จำกัด และไม่ต้องกังวลเรื่องคลื่นความถี่รบกวน


ในส่วนของข้อจำกัดก็ตรงข้ามกับไมค์ลอยคือผู้ใช้งานอาจรู้สึกเกะกะจากสายสัญญาณที่คอยพันแข้งพันขา ดูรกหูรกตา หากเก็บสายไม่ดีก็อาจจะเกิดการสะดุดสายได้บ่อยๆ ขณะเดียวกันก็ยังใช้งานได้ในระยะจำกัดไม่กี่เมตรตามความยาวสาย เคลื่อนไหวหรือเดินไปไหนได้ไม่อิสระเท่ากับใช้ไมค์ลอย และยิ่งใช้สายยาวเท่าไรคุณภาพเสียงยิ่งลดลงตามระยะทาง นอกจากนี้ถ้าใช้งานไมค์สายคู่กับสายคุณภาพต่ำหรือใช้ผิดประเภทก็จะส่งผลให้ประสิทธิภาพเสียงลดลงและเกิดเสียงรบกวนได้ 

ไมค์ลอย ไมค์สาย

ไมค์ลอย vs ไมค์สาย ใช้แบบไหนดี

มาถึงตรงนี้เชื่อว่าผู้อ่านทุกท่านน่าจะรู้ถึงความแตกต่างและข้อดีข้อเสียของทั้งไมค์ลอยและไมค์สายแล้ว ไมค์ทั้งสองแบบมีความน่าใช้ด้วยกันทั้งคู่ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานว่าเหมาะสมกับไมค์แบบไหน ถ้าเน้นความเรียบง่าย ไม่ต้องมีอุปกรณ์ต่อพ่วงอะไรมากมาย  ไม่ซีเรียสกับสายไมค์ยุ่งๆ หรือใช้งานในพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มากเช่นใช้ร้องคาราโอเกะในบ้าน ใช้งานในห้องประชุม ใช้กับเวทีขนาดเล็ก ไมค์สายตอบโจทย์การใช้งานในสถานที่เหล่านี้ได้ดี


ขณะเดียวกัน ถ้าต้องการความสะดวกในการใช้งาน ไม่ชอบความเกะกะวุ่นวายของสาย ต้องการความสะดวกในการเคลื่อนไหว เดินถือไมค์ได้อย่างอิสระ ใช้งานพร้อมกับหลายไมค์ ใช้พูดหรือร้องเพลงจากระยะไกลเช่นบนเวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ งานอีเวนต์กลางแจ้ง ลานกิจกรรม หรืองานที่ต้องมีการเดินเคลื่อนที่ตลอด ไมค์ลอยถือว่าตอบโจทย์กับการใช้งานแบบนี้มากกว่า


อย่างไรก็ตาม Mercular.com มองว่าทั้งไมค์ลอยและไมค์สายต่างมีความสำคัญทั้งคู่และมีจุดที่ไมค์ทั้งสองแบบยังไม่สามารถทดแทนกันได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกไมค์แบบไหนก็ควรคำนึงถึงวัตุประสงค์การใช้งานเป็นหลักและลงทุนกับไมค์ที่มีสเปคเพียงพอกับการใช้งาน ถ้าใช้ไมค์สายก็ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของสายสัญญาณด้วยเพื่อคุณภาพเสียงที่ดีและเสียงรบกวนต่ำ 

ไมค์ลอย ไมค์สาย

ไมค์ลอยแบรนด์ไหนดี

ปัจจุบันมีไมค์ลอยให้เลือกมากมายทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์นอก แบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมสูงทั้งในระดับผู้ใช้งานทั่วและระดับมืออาชีพก็จะมีทั้ง Shure, sE Electronics, JTS, Telefunken, Beyerdynamic, Audio-Technica, AKG, Sennheiser, Soundvision เป็นต้น ไมค์ของแบรนด์เหล่านี้มาพร้อมกับประสิทธิภาพที่ดีเยียม ใช้วัสดุคุณภาพสูง การผลิตที่มีมาตรฐานสูง เสียงดี ทนทาน บางรุ่นขายมานานแต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่จนถึงทุกวันนี้ และแต่ละแบรนด์ก็มีไมค์ลอยให้เลือกหลายรุ่นหลายเกรดตอบโจทย์ทุกช่วงงบประมาณ


นอกจากแบรนด์ดังข้างต้นแล้วก็ยังมีไมค์ลอยแบรนด์ทางเลือกสำหรับผู้มีงบจำกัด อาทิ Proplus, Proeuro Tech, Microtech, Sherman, SKG, NPE เป็นต้น ไมค์ลอยแบรนด์เหล่านี้มาพร้อมกับคุณภาพที่ไว้ใจได้ เสียงดี ทนทาน ได้รับความนิยมในระดับผู้ใช้ทั่วไป และยังมีให้เลือกหลายรุ่นหลายระดับราคา ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจถ้าไม่เน้นแบรนด์ชื่อดัง

ไมค์ลอย คอนเสิร์ต

ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นแนวทางให้คนที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะซื้อไมค์ลอยหรือไมค์สายกันอยู่นะครับ ไมค์ทั้งสองแบบมีข้อดีและข้อด้อยทั้งคู่ ควรพิจารณาให้เหมาะกับการใช้งานครับ สำหรับวันนี้ Mercular.com ต้องขอตัวลาไปก่อน พบกับบทความ Buying Guide ดีๆ แบบนี้ได้ที่เว็บไซต์ของเรา สวัสดีครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2