มินิรีวิว Huawei Watch 3 & 3 Pro

10 มิ.ย. 2564

มินิรีวิว Huawei Watch 3 & 3 Pro

นาฬิกาอัจฉริยะที่มาพร้อม HarmonyOS เป็นครั้งแรก

หลังจากที่ทาง Huawei ถูกตัดขาดจาก Google ทำให้ไม่สามารถใช้บริการจากทาง Google และ Android Service ได้นั้น ทาง Huawei ก็ซุ่มพัฒนาระบบปฏิบัติการณ์ของตัวเองโดยไม่ง้อใครในชื่อ Harmony OS ซึ่งหลังจากพัฒนามาจนสำเร็จก็ถึงเวลาเปิดตัวให้ใช้งานกันแล้วโดยอุปกรณ์แรกที่ได้ใช้จะเป็น Tablet จากทาง Huawei นั่นเอง และสำหรับอุปกรณ์ถัดมาที่ได้ใช้ Harmony OS ก็คือ Smartwatch รุ่นยอดนิยมจากทางแบรนด์ ที่ล่าสุดเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดถึง 2 รุ่นและทั้ง 2 รุ่นก็ใช้ระบบปฏิบัติการณ์ Harmony OS ด้วยเช่นกัน โดยถือว่าเป็นครั้งแรกที่ Smartwatch ของ Huawei เปลี่ยนมาใช้ระบบปฏิบัติการณ์ใหม่ โดยทั้ง 2 รุ่นจะน่าสนใจแค่ไหน และมีฟังก์ชันใดเด่นๆ บ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ

Huawei Watch 3 ราคา

Huawei Watch 3

เริ่มกันที่รุ่น Standard อย่าง Huawei Watch 3 ครั้งนี้โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ OLED แบบสัมผัส Touch Screen ที่ให้สีสันที่สดใสสมจริง และสีดำที่เข้มลงได้ดำสนิทกว่าจอแบบ LED ทั่วๆไป มาพร้อมความสว่างสูงสุดที่ 1,000 nits ที่จัดว่าสว่างมากๆ ใช้งานกลางแดด หรือนอกสถานที่ที่มีแดดจ้าได้สบายๆ มองเห็นแน่นอนครับ ด้านตัวเรือนในรุ่นนี้จะเป็นตัวเรือนทรงกลม ควบคุมด้วยปุ่มด้านข้างและเม็ดมะยมหรือ Digital Crown ที่ต้องบอกเลยว่าควบคุมได้ง่ายดายเพียงหมุนเท่านั้นแบบเม็ดมะยมบนนาฬิกาทั่วๆ ไปนั่นเอง ตัวนาฬิกายังมาพร้อมเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจจับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างครบครัน ทั้งอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดอุณหภูมิบนผิวหนังที่ยังมีน้อยรุ่นที่จะทำได้, วัดออกซิเจนในเลือด SpO2, วัดความเครียดในแต่ละวัน ไปจนถึงการติดตามการนอนหลับว่านอนได้เต็มอิ่ม หลับลึกหรือไม่อีกด้วย ด้านการออกกำลังกายรองรับการออกกำลังกายทั้งหมด 100 รูปแบบ มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการล้มแบบบน Apple Watch และความสามารถในการกันน้ำ 5ATM ตัว Huawei Watch 3 ยังสามารถดาวน์โหลตแอปได้เพิ่มเติมด้วย AppGallery ในตัวและรองรับ eSim อีกด้วย สำหรับแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 3 วันในโหมดปกติ และโหมด Ultra-Long Lasting จะใช้งานได้ 14 วันครับ

Huawei Watch 3 Pro ราคา

Huawei Watch 3 Pro

สำหรับในรุ่น Pro จะโดดเด่นด้วยวัสดุที่ทำจาก Titanium Alloy ที่มีความทนทานและแข็งแรงสุง รวมถึงยังมีความหรูหราสวยงามอีกด้วย ด้านหลังนาฬิกาจะเป็นเซรามิก มาพร้อมเม็ดมะยมแบบเดียวกับรุ่นธรรมดา และฟังก์ชันการใช้งานแบบเดียวกัน โดยในรุ่น Pro จะเน้นไปในด้านความหรูหรา พรีเมียมตอบโจทย์ผู้ใช้งานระดับสูงที่ต้องการนาฬิกาที่มีความหรูหรานั่นเอง ส่วนของหน้าจอก็จะพิเศษด้วยหน้าจอ AMOLED กว้าง 1.43 นิ้ว ความละเอียด 466x466 พิกเซล และความละเอียดพิกเซล 326ppi ครอบด้านบนด้วย Sapphire Glass ที่มีความแข็งแรงทนทานสุง ป้องกันการขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ด้านแบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนานกว่าโดยเฉพาะโหมด Ultra-Long Lasting จะอยู่ได้นาน 21 วัน และโหมดธรรมดาจะอยู่ได้นาน 5 วันเลยทีเดียว


โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย และเปิดตัวราคาเป็นทางการในรุ่น Huawei Watch 3 อยู่ที่ 12,700 บาทและรุ่น 3 Pro อยู่ที่ 16,000 บาท ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอนครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2