5 ลําโพงบลูทูธ 5.1 เสียงรอบทิศทางพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย
Share
19 พ.ค. 2566

เมื่อพูดถึงสินค้าประเภทลำโพงในปัจจุบัน ก็ต้องยอมรับเลยว่าด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาไปไกลมากๆ ในปัจจุบันนั้นทำให้ลำโพงที่ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายนั้นแบ่งออกเป็นหลากหลายประเภทย่อยให้ได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของตามความต้องการในการใช้งาน เช่น ลำโพงไร้สาย, ลำโพงพกพาไร้สาย, ลำโพงบ้านไร้สาย, ลำโพง Home Theatre ไร้สาย, ลำโพง Soundbar ไร้สาย และอีกประเภทที่กำลังมาแรงมากๆ ในตอนนี้เลยก็คือประเภท ลำโพงไร้สายพร้อมเสียงรอบทิศทางที่สมจริงหรือ ลำโพงบลูทูธ 5.1 ด้วยจุดเด่นอย่างระบบเสียงรอบทิศทางที่สมจริงในระดับ 5.1 Channel พร้อมการเชื่อมต่อที่โดดเด่นและทันสมัยแบบไร้สายผ่านสัญญาณ Bluetooth ซึ่งทำให้การเชื่อมต่อนั้นปราศจากส่วนของสายมากวนใจ ตอบโจทย์การใช้งานในทุกกิจกรรมทั้ง การฟังเพลง การดูหนัง และการเล่นเกม รวมถึงตอบโจทย์การใช้งานกับทุกอุปกรณ์ทั้ง Smart TV, PC, Laptop, Smartphone และ Tablet เป็นต้น
และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา ลําโพงบลูทูธ 5.1 และยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหรือจับจองรุ่นไหนดี รวมถึงรุ่นไหนจะให้ประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม สมจริง กระหึ่มถึงใจ ในขณธเดียวกันก็มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายที่เสถียร และเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย จากบรรดา ลําโพงบลูทูธ 5.1 ที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายรุ่นในตลาดตอนนี้ ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา 5 ลําโพงบลูทูธ 5.1 เสียงรอบทิศทางพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าซื้อมาใช้งานรวมถึงน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ
5 ลําโพงบลูทูธ 5.1 ในบทความนี้
ลำโพง Klipsch Cinema 800 + Surround 3 Sound Bar
สเปคเด่น
แบรนด์: Klipsch
Bluetooth Version: 5.0
ระบบเสียง: 5.1 Channel
Subwoofer: ไร้สาย
Dolby Atmos: รองรับ
ลําโพงบลูทูธ 5.1 รุ่นที่ 1 กับ ลำโพง Klipsch Cinema 800 + Surround 3 Sound Bar ลำโพง Sound Bar ไร้สายที่มาพร้อม Subwoofer ไร้สาย มาพร้อมขนาดที่ต้องบอกเลยว่าใหญ่กำลังดีที่ 48 นิ้ว วัสดุเลือกใช้เป็นไม้แท้พร้อมรูปทรงแบบแท่งยาวที่คลาสสิคเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Klipsch ตอบโจทย์การใช้งานกับ TV ขนาด 48 นิ้วขึ้นไป และตอบโจทย์การวางในทุกห้องด้วยรูปร่างหน้าตาสุดคลาสสิค ด้านการเชื่อมต่อก็ให้มาอย่างครบถ้วนทั้งไร้สายและมีสายแบบที่ครบจบในตัวเดียว มาพร้อมปุ่มสำหรับควบคุมต่างๆ ที่ตัวลำโพง หรือจะควบคุมจากระยะไกลก็ได้เช่นกันทั้งผ่านรีโมทที่ให้มาด้วย โดยตัวรีโมทจะมีไฟ LED Backlit อยู่ในตัวทำให้ใช้งานได้ทั้งขณะกลางวัน เวลาเปิดไฟ หรือจะใช้งานขณะกลางคืนหรือในห้องมืดที่ไม่มีไฟก็ไม่มีปัญหา
ด้านไดรเวอร์ภายในก็เป็นอีกจุดที่ให้มาแบบจัดเต็ม ตอบโจทย์การเป็นลำโพง Sound Bar พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos โดยประกอบไปด้วยไดรเวอร์ย่านต่างๆ ได้แก่ ไดรเวอร์เสียงสูงที่เลือกใช้ Tweeters แบบ Soft Dome ขนาด 1” 3 ตัว ควบคู่ไป Tractrix® horns อันเป็นเอกลักษณ์ของ Klipsch และไดรเวอร์เสียงกลางเลือกใช้ไดรเวอร์แบบ Oval Fiber Composite Cone Woofers ขนาด 3” 4 ตัว ส่วน Subwoofer มาพร้อมไดรเวอร์ Woofer ขนาด 10” ที่ต้องบอกเลยว่าใหญ่และยิงเบสได้กระหึ่มถึงใจสุดๆ ขับเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 5.1 ให้ประสบการณ์ไม่แพ้ในโรงภาพยนตร์
ลำโพง Klipsch Cinema 600 + Surround 3 Soundbar
สเปคเด่น
แบรนด์: Klipsch
Bluetooth Version: 5.0
ระบบเสียง: 5.1 Channel
Subwoofer: ไร้สาย
Dolby Atmos: ไม่รองรับ
ลําโพงบลูทูธ 5.1 รุ่นที่ 2 กับ ลำโพง Klipsch Cinema 600 + Surround 3 Soundbar มาพร้อมขนาด 45 นิ้ว ระบบเสียง 3.1 และเพิ่มเสียงเป็น 5.1 แบบไร้สายด้วยลำโพง Klipsch Surround 3 พร้อมด้วย Subwoofer ขนาดใหญ่ 10 นิ้ว ที่ให้เสียงกระหึ่ม สมจริง พร้อมรูปลักษณ์สุดคลาสสิค ตั้งวางไว้บริเวณใดก็ดูน่าหลงใหล เชื่อมต่อง่ายดายและครบครันทั้งมีสายและไร้สาย ในระดับที่พูดได้เลยว่าคุ้มค่า ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
ตัว Klipsch Cinema 600 มีขนาดอยู่ที่ 45 นิ้ว ทำให้เหมาะใช้งานกับ TV ขนาด 45 นิ้วขึ้นไป สำหรับ TV ที่เล็กกว่า 45 นิ้วนั้นยังสามารถใช้งานได้อยู่เช่นกัน เพียงแต่ตัว TV จะมีขนาดเล็กกว่า Sound Bar อาจจะไม่เข้ากันเท่าไหร่นัก ส่วนของเรื่องเสียงทำได้กระหึ่มและดังถึงใจ จะเป็นห้องนอนขนาดใหญ่เตียง King Size หรือห้องนั่งเล่น ขนาด 4 ตารางเมตรขึ้นไป ไปจนถึงห้องทานข้าวแบบโต๊ะใหญ่นั่ง 6 คนขึ้นไปก็ไม่มีปัญหา ให้เสียงที่ดังกระหึ่มถึงใจแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่มาตอบโจทย์คนที่มีห้องกว้างๆ นั่นเอง และหากระบบเสียง 3.1 ยังไม่เพียงพอนั้นก็สามารถเพิ่มลำโพง Surround เข้าไปเพิ่มเป็นระบบเสียง True Surround 5.1 ได้ด้วย ลำโพง Klipsch Surround 3 ซึ่งการเชื่อมต่อก็ง่ายดายและเป็นแบบไร้สายเพียงเสียบ Dongle ของ Surround 3 เข้าที่ด้านข้างของ Klipsch Cinema 600 จากนั้นกด Pair ก็เป็นอันเชื่อมต่อเรียบร้อย ตัว Surround จะเชื่อมต่อและประมวลผลออกมาเป็นระบบเสียง 5.1 ให้โดยอัตโนมัติ
ลำโพง JBL Bar 5.1 Sound Bar Speaker
สเปคเด่น
แบรนด์: JBL
Bluetooth Version: 4.2
ระบบเสียง: 5.1 Channel
Subwoofer: ไร้สาย
Dolby Atmos: ไม่รองรับ
ลําโพงบลูทูธ 5.1 รุ่นที่ 3 กับ ลำโพง JBL Bar 5.1 Sound Bar Speaker ลำโพงดูแบบผิวเผินก็เหมือน Soundbar ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วจะมีลำโพงแยก Surround ทั้ง 2 ข้างซ้ายขวาติดอยู่ สามารถถอดและเก็บคืนได้ ส่วน Subwoofer มีขนาดใหญ่ แยกเชื่อมต่อออกมาแบบไร้สาย มีดอกลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ข้างในขนาดถึง 10 นิ้ว ส่วนตัว Soundbar มีขนาดเล็ก สามารถนำมาไปวางไว้ใต้ทีวีขนาดราวๆ 40 - 55 นิ้วได้พอดี จุดเด่นของลำโพงตัวนี้คือเป็นลำโพง 5.1 Channel แบบไร้สายทั้งระบบ เสียบแค่สาย AC จ่ายไฟให้กับตัว Soundbar และ Subwoofer เพียง 2 เส้นก็พร้อมใช้งานแล้ว และลำโพง Surround 2 ตัวก็ไร้สาย ถอดออกมามันก็เล่นได้ปกติโดยไม่ต้องต่อสายใดๆ มีแบตในตัวใช้ได้ถึง 10 ชั่วโมง ถ้าไม่ใช้ก็แค่เก็บใส่ตรง Soundbar พร้อมกับชาร์จแบตไปในตัว
ในส่วนการเชื่อมต่อก็ให้มาแบบจัดเต็มมาก ตัวลำโพงเชื่อมต่อแบบ Bluetooth สามารถต่อมือถือหรือ Device ต่างๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็น Notebook iPhone หรือ iPad และมีช่องเชื่อมต่อแบบมีสายไม่ว่าจะเป็น AUX/3.5 mm. Digital Optical และ HDMI Inputs ถึง 3 ช่องและมี HDMI Output (ARC) พร้อมภาพและเสียงอีก 1 ช่องรองรับดูหนัง 4K ได้อีกด้วย ตัวลำโพงยังมี App JBL SoundShift ที่สามารถสลับการใช้งานเสียงระหว่าง เลือกเล่นผ่าน TV, Smartphone หรือ Tablet ได้ในทันทีทุกเวลา จัดว่าเป็นลำโพง Sound Bar ที่สะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด ส่วนของด้านสเปกลำโพง JBL Bar 5.1 คือมี ดอกทวิตเตอร์ 3 ตัว (1.25 นิ้ว) และซัฟวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ (10 นิ้ว) ให้กำลังขับสูงสุด 510W เรียกได้ว่าลำโพงตัวเดียวดังถล่มทลายทั่วถึงได้ทั้งห้องแน่นอน
ลำโพง LG SP9A Soundbar
สเปคเด่น
แบรนด์: LG
Bluetooth Version: 5.0
ระบบเสียง: 5.1.2 Channel
Subwoofer: ไร้สาย
Dolby Atmos: รองรับ
ลําโพงบลูทูธ 5.1 รุ่นที่ 4 กับ ลำโพง LG SP9A Soundbar ที่เป็นชุดลำโพงซาวด์บาร์รุ่นรองจากลำโพง LG SP11RA Soundbar พร้อมสเปกที่ลดทอนลงมาจากพี่ใหญ่บางส่วน รูปลักษณ์ดีไซน์จัดว่าสวยงามทันสมัย และซับวูฟเฟอร์เชื่อมต่อแบบไร้สาย ระบบเสียงของรุ่นนี้เป็นแบบ 5.1.2 ch กำลังขับรวม 520W จุดเด่นยังคงเป็นเรื่องเสียงที่มีพัฒนาร่วมกับ Meridian แบรนด์เครื่องเสียงไฮเอนด์จากประเทศอังกฤษเพื่อส่งมอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูง แม่นยำ ชัดเจน รายละเอียดครบถ้วน นอกจากนี้ยังรองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos และ DTS:X ครบ ดูหนังสนุกเต็มอารมณ์ รวมถึงรองรับการเล่นเสียงความละเอียดสูง 24bit/192KHz สำหรับการฟังเพลงที่ดื่มด่ำล้ำลึก
LG SP9A ยังมีฟีเจอร์พิเศษอย่าง AI Room Calibration ปรับเสียงของซาวด์บาร์ให้เหมาะกับพื้นที่รับชม รวมถึงมี AI Sound Pro ปรับเสียงให้เหมาะกับคอนเทนต์ที่กำลังรับชมอยู่โดยอัตโนมัติ ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อซาวด์บาร์ SP9A เข้ากับทีวี LG เพื่อซิงค์เสียงเข้าด้วยกัน ให้เสียงที่มีคุณภาพมากขึ้น ทั้งยังสามารถควบคุมสั่งการซาวด์บาร์ได้โดยผ่านรีโมตทีวีตัวเดียว เป็นการเพื่อความสะดวกในการใช้งานได้มากขึ้น มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi รองรับการสั่งการด้วยเสียง Google Assistant และ Amazon Alexa รวมถึงการสตรีมเนื้อหาผ่าน Apple AirPlay และ Chromecast และสตรีมเพลงออนไลน์ผ่าน Spotify Music ด้านการเชื่อมต่อมีสายรองรับ HDMI eARC สำหรับการรับชมคอนเทนต์ 4K รวมถึง HDR และ Dolby Vision โดยมีการลดทอนคุณภาพน้อยที่สุด เรียกได้ว่าเป็นชุดลำโพงซาวด์บาร์ที่มีสเปกครบเครื่องมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง คุณภาพเสียงดีเยี่ยม ระบบเสียงรอบทิศทางสมจริง รองรับการใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ดูข่าว ดู Youtube ทุกอย่างเป็นไปด้วยความสะดวกและมีประสิทธิภาพ
ลำโพง Devialet Dione Soundbar
สเปคเด่น
แบรนด์: Devialet
Bluetooth Version: 5.0
ระบบเสียง: 5.1.2 Channel
Subwoofer: ภายในตัว
Dolby Atmos: รองรับ
ลําโพงบลูทูธ 5.1 รุ่นที่ 5 กับ ลำโพง Devialet Dione Soundbar ที่มาระบบเสียง 5.1.2 แชนแนลแท้ รองรับ Dolby Atmos มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่เต็มอิ่มและสมจริง ตัวลำโพงมีกำลังขับ 950W RMS และมี SPL ที่ 101dB ซึ่งถือว่าดังมากๆ ภายในติดตั้งไดรเวอร์ขับเสียงมากถึง 17 ตัว แบ่งเป็น Aluminium long-throw subwoofer 8 ตัว และ Full-range aluminium driver 9 ตัว ตอบสนองความถี่กว้าง 24 – 21,000Hz ให้เสียงที่เต็มอิ่ม หนักแน่น รายละเอียดครบทุกย่าน ด้านรูปลักษณ์มีการออกแบบให้ล้ำสมัยโดยมีสิ่งที่โดดเด่นเป็นดั่งซิกเนเจอร์ของลำโพงรุ่นนี้คือ ORB หรือลำโพง center channel ทรงกลมกึ่งกลางตัวซาวด์บาร์ ลำโพงทรงกลมนี้มีหน้าที่ปรับกลไกและทิศทางเสียงให้เข้ากับตำแหน่งของตัวซาวด์บาร์ ไม่ว่าจะติดผนังหรือวางราบใต้ทีวีลำโพงก็จะสร้างเสียงที่เหมาะสมและทิศทางเสียงที่แม่นยำตรงเข้าสู่ผู้ฟัง
ไม่ว่าจะรับชมหรือรับฟังเนื้อหาใด เทคโนโลยี SPACE ของลำโพง Devialet Dione จะขยายสัญญาณโมโนหรือสเตอริโอให้เป็นสัญญาณ 5.1.2 เพื่อเพิ่มมิติเสียงให้ล้ำลึกและครอบคลุมมากขึ้น เพิ่มอรรถรสและประสบการณ์เสียงให้เพลิดเพลินอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ลำโพงยังมาพร้อมโหมดเสียงอีก 4 รูปแบบ ได้แก่ Movie Mode, Spatial Mode, Voice Mode และ Music Mode สามารถเลือกปรับให้ตรงกับการรับชมคอนเทนต์ได้ตามต้องการ รองรับการเชื่อมต่อสมัยใหม่อย่างครบครันทั้งมีสายและไร้สาย และในการใช้งานร่วมกับแอป Devialet จะมีฟีเจอร์สำหรับสแกนห้อง โดยลำโพง Devialet Dione จะใช้ไมโครโฟน 4 ตัวเพื่อรับเสียงรอบตัวและประเมินสภาพห้องเพื่อสร้างรูปแบบเสียงที่แม่นยำและเหมาะกับห้องนั้นๆ ที่สุด เพิ่มคุณภาพเสียงและความสมจริงให้กับสิ่งที่รับชม

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 ลําโพงบลูทูธ 5.1 เสียงรอบทิศทางพร้อมการเชื่อมต่อไร้สาย ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น 5.1 Bluetooth Speaker ที่มาพร้อมความสามารถที่ครับครัน ทั้งการเชื่อมต่อไร้สาย ระบบเสียง 5.1 รับรองได้เลยว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา 5.1 Bluetooth Speaker ที่ยังไม่รู้ว่ารุ่นไหนดีที่สุดและไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ
ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา 5.1 Bluetooth Speaker ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง ลําโพงบลูทูธ 5.1 รุ่นไหนดี หรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ