เชื่อว่าในยุคนี้การจะซื้อนาฬิกาเรือนนี้ต้องไม่เพียงแต่สามารถดูเวลาได้เท่านั้น แต่ยังต้องอำนวยความสะดวกให้เราได้อย่างหลากหลาย เฉกเช่น นาฬิกา Smart Watch นอกจากจะแสดงเวลาให้เราเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ยังสามารถแจ้งเตือนข้อความ และสายเรียกเข้าเพื่อพูดคุยได้ทันที อีกทั้งยังสามารถใช้งานสแกนจ่ายแบบ Cashless ได้สบาย แถมยังมีเซนเซอร์ตรวจจับค่าสุขภาพต่าง ๆ อีกอย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่า Smart Watch นั้นเป็นเหมือนคู่หูการใช้ชีวิตประจำวันเลยล่ะ หากคุณกำลังมองหา Smart Watch ราคาไม่เกิน 5,000 บาท แต่ได้ฟังก์ชันครบครันอยู่ล่ะก็ เรารวมไว้ให้แล้วที่นี่ ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง

นาฬิกา Amazfit GTS 4 Mini Smart Watch เป็นนาฬิกาอัจฉริยะจากทาง Amazfit มาพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบหรูมีระดับตามสไตล์ของ Lifestyle Smartwatch ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด เบาเพียงแค่ 19 กรัมเท่านั้น และมากับฟังก์ชันที่ครบครันสำหรับการใช้งานไม่ว่าจะเป็นระบบการติดตาม GPS 5 ระบบด้วย GPS, GLONASS, GALILEO, BDS, QZSS และสำหรับคนรักการออกกำลังกายเจ้าสมาร์ทวอทช์ตัวนี้ก็ยังรองรับรูปแบบการออกกำลังกายถึง 120 กว่าแบบ ทั้งนี้ยังมีเซ็นเซอร์สุขภาพ BioTracker 3.0 วัดค่าตลอด 24 ชม. ซึ่งสามารถตรวจวัดค่าอัตราการเต้นหัวใจ วัดค่าออกซิเจนในเลือด วัดค่าความเครียด และการนอนหลับได้บอกเลยว่าครับจบเรื่องสุขภาพในตัวเดียวเลยล่ะครับ แบตเตอรี่อยู่ในยาวนานถึง 15 วัน และสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ถึงระดับ 5 ATM บอกเลยว่าเป็นตัวที่ราคาไม่เกิน 5000 ที่ครบเครื่องสุด ๆ

นาฬิกา HCare Go 3 Smart Watch สมาร์ทวอทช์ดีไซน์เรียบหรู สวยงามน่าใช้งานจาก HCare ซึ่งมากับฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน โดยมากับฟังก์ชันด้านสุขภาพมากมายทั้งวัดอัตราการเต้นหัวใจ, วัดอุณหภูมิ, วัดระดับออกซิเจนในเลือด, วัดความดันโลหิต, วัดการเปลี่ยนแปลงหลอดเลือดฝอย และจุดเด่นของเจ้าตัวนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือฟังก์ชันวัดระดับน้ำตาล ซึ่งบอกได้เลยว่ามีสมาร์ทวอทช์เพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้นที่ทำได้ โดยจะเป็นการใช้เซ็นเซอร์วัดค่าน้ำตาลจากเหงื่อของเรานั่นเองและยังมาพร้อมกับการออกกำลังกายถึง 50 กว่ารูปแบบรองรับการ วิ่ง ฟุตบอล แบดมินตัน และปั่นจักรยาน สามารถโทรออก - รับสายผ่านนาฬิกาได้เลยโดยไม่ต้องรับผ่านโทรศัพท์ให้ยุ่งยากนั่นเอง แถมยังใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 7 วันด้วยนั่นเอง

นาฬิกา Amazfit GTR Mini Smart Watch จาก Amazfit ที่มากับฟังก์ชันการใช้งานที่ครบไม่แพ้ตัวอื่น ๆ เลยก็ว่าได้ และยังมาพร้อมกับดีไซน์ Super Slim ขอบจอบางตัดสวยสีเงินจากอะลูมิเนียม เพิ่มความหรูหรา และมีความพรีเมียมมากขึ้น และมากับโหมดการออกกำลังกายที่มาถึง 120 กว่ารูปแบบ และตัวช่วยให้การออกกำลังกายดียิ่งขึ้นอย่าง ExerSense เน้นโฟกัสการออกกำลังกาย 7 ประเภทสำคัญ Virtual Pacer ผู้ช่วยส่วนตัวในการวิ่ง PeakBeat แชร์ข้อมูลการออกกำลังกายให้ community ของคุณ หรือหากเป็นนักกกีฬาว่ายน้ำก็สามารถใส่ขณะลงสระได้ เพราะเค้ามากับมาตรฐานการกันน้ำที่ 5 ATM พร้อมกับฟีเจอร์สุขภาพทั้งการตรวจวัดค่า Heart rate, SpO2, ความเครียด และการนอนหลับได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงมีการติดตามตำแหน่ง GPS ที่มีความแม่นยำสูง นอกจากยังมาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานพื้นฐานที่ครบครันทั้งการรับสาย จับเวลา แจ้งเตือนกิจกรรมต่าง ๆ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ยังคงอยู่กับแบรนด์ Amazfit เช่นเคยนะครับกับนาฬิกา Amazfit Bip 3 Pro Smart Watch ซึ่งเจ้าตัวนี้เนี่ยมีจุดเด่นเรื่องของความคุ้มค่าคุ้มราคานั่นเอง มากับดีไซน์แบบสปอร์ตแต่เรียบง่าย หน้าจอสวยงามกับขนาด 1.69 นิ้ว เสริมด้วยเลนส์กระจกนิรภัย แถมหน้าปัดนาฬิกาสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายแบบ พร้อมกับโหมดฟังก์ชันการออกกำลังกายถึง 60 กว่ารูปแบบ รวมไปถึงฟังก์ชันด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานต่าง ๆ เจ้าตัวนี้ใส่มาให้อย่างครบครันแถมยังติดตามได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการควบคุมแอปพลิเคชันการฟังเพลงได้บนตัวเรือน สำหรับคนชอบฟังเพลงล่ะก็บอกเลยว่าสะดวกมาก ๆ และยังรองรับควบคุมการใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชัน Zepp เพื่อการเชื่อมต่อ ควบคุมการใช้งาน ตั้งค่า และอ่านค่าต่าง ๆ นั่นเอง

นาฬิกา Xiaomi Mi Band 7 Fitness Tracker จากแบรนด์ Xiaomi ที่มีดีไซน์โดดเด่นกว่าตัวอื่น ๆ พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส AMOLED ขนาด 1.62 นิ้ว ที่สามารถปรับเปลี่ยนหน้าปัดได้มากกว่า 100 แบบ พร้อมกับฟังก์ชันต่าง ๆ มากมายเพื่อการออกกำลังกายโดยเฉพาะ รองรับโหมดกีฬาได้ถึง 110 โหมด สามารถติดตามและบันทึกข้อมูลแคลอรี่ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างครบถ้วน เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อคนที่ชอบออกกำลังกายเลยก็ว่าได้ พร้อมกับมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ 5 ATM ใส่ลงว่ายน้ำก็ได้ อาบน้ำก็ได้ และยังมีการติดตาม SpO₂ รวมถึงการติดตามการนอน ไม่ว่าจะหลับลึก, หลับปกติ, REM และงีบหลับ ซึ่งเราสามารถติดตามค่าต่าง ๆ ได้ผ่านแอป Mi Fitness นั่นเอง สำหรับการใช้งานนั้นอยู่ได้ยาวนานถึง 14 วัน หรือหากใช้งานอย่างหนักหน่วงก็ยังคงใช้งานได้นานถึง 9 วัน เป็นอีกหนึ่งตัวในงบจำกัดที่น่าสนใจไม่แพ้ตัวอื่น ๆ เลย ทั้งราคาและฟังก์ชัน คุ้มค่าน่าลองมากเลยทีเดียวครับ

นาฬิกา Huawei Band 8 Smart Watch จาก Huawei เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์อีกตัวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ อัปเกรดเวลาในการชาร์จที่เร็วขึ้นมากกว่าเดิมถึง 30% ซึ่งเค้าสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วรองรับการใช้งานถึง 14 วัน ผ่านการชาร์จเพียง 45 นาทีพร้อมกับฟังก์ชันการตรวจวัดสุขภาพขั้นพื้นฐานอย่างวัดอัตราการเต้นหัวใจ, วัดระดับออกซิเจนในเลือดและวัดระดับความเครียด หรือสายออกกำลังกายเค้าก็ยังมีโหมดการออกกำลังกายกว่า 100 โหมด ผ่าน TruSport ที่มีทั้งกีฬาในร่ม กลางแจ้ง และกีฬาทางน้ำ ติดตามและรายงานผลสุขภาพของคุณได้แบบเรียลไทม์ ตัวดีไซน์นั้นสวยงามทรงสปอร์ตแถมหน้าตายังดูเป็นมิตรใช้งานง่าย และยังมีสีให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมไปถึงยังมีฟีเจอร์แสดงข้อมูลและการแจ้งเตือนให้คุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวสำคัญอีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 6 อันดับ Smart Watch ราคาไม่เกิน 5,000 บาทที่เราได้แนะนำไปด้านบน ถูกอกถูกใจรุ่นไหนกันบ้าง? แต่สำหรับใครที่มีงบน้อยกว่า 5,000 ก็สามารถเลือก Smart Watch ราคาไม่เกิน 2,000 ได้ที่บทความนี้ บอกเลยว่าถูกใจเรือนไหนอย่ารอช้า รีบเก็บโค้ดแล้วชอปเลย ระวังชอปไม่ทันเด้อ!