เป็นอีกแบรนด์ที่เมื่อพูดถึงเรื่อง แบรนด์ลำโพงไร้สายอันดับต้นๆ ในปัจจุบันจะต้องนึกถึงชื่ออยู่เสมอกับ JBL ที่มีสินค้ายอดนิยมมากมายหลากหลายรุ่นในกลุ่มลำโพงพกพาไร้สาย เช่น JBL Pulse 4 ลำโพงพกพาพร้อมไฟแสดงผลสุดเท่ และ JBL Go 3 ลำโพงพกพาไซส์น้องเล็ก เสียงกระหึ่มเกินตัว และนอกจากสินค้าเหล่านี้แล้วอีก Categories ที่ทางแบรนด์ JBL ทำได้ยอดเยี่ยมและได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ หูฟังไร้สาย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่กระแสหูฟังตัดเสียงรบกวนไร้สายกำลังมาแรงโดยมีรุ่นเด่นๆ ทั้งจากแบรนด์ Sony และ Bose เป็นต้น ซึ่งทาง JBL ก็ไม่รอช้าทำการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดที่เป็นการอัพเกรดมาจากรุ่นยอดนิยมของตัวเองนั่นก้คือรุ่น หูฟังไร้สาย JBL Live 660 NC Over-Ear Wireless Headphone นั่นเอง โดยมาพร้อมจุดเด่นอย่างการตัดเสียงรบกวนที่ยอดเยี่ยมขึ้น การออกแบบให้มีรูปร่างหน้าตาที่ดูพรีเมียม น่าใช้งานมากขึ้น ใส่สบาย และแน่นอนว่าแนวเสียงที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมตามสไตล์ของแบรนด์ JBL อีกด้วย โดยจะมีจุดเด่นอะไรน่าสนใจอีกบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ

JBL Live 660 NC เป็นหูฟังไร้สายสวมใส่แบบครอบหูที่ออกแบบมาให้มีรูปร่างหน้าตาที่ดูเท่ หรูหรา โดยที่ยังคงคาแรคเตอร์ของทาง JBL เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน โดดเด่นในเรื่องการสวมใส่ที่สบายหูด้วยการเลือกใช้วัสดุอย่างพิถีพิถัน ทั้งส่วนของ Headband คาดศีรษะที่เลือกใช้เป็นผ้าผิวสัมผัสนุ่ม สบายศีรษะ และระบายความร้อนได้ดีใส่แล้วไม่อึดอัด และ Earcup ที่เลือกใช้วัสดุที่มีความนุ่มสบายหู ซึมซับแรงกดทับได้ดี และระบายความร้อนได้ดีเช่นเดียวกัน สวมใส่ได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกอึดอัดหรือล้าหู ด้านฟังก์ชันเด่นอย่างการตัดเสียงรบกวนก็เป็นอีกจุดที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยเทคโนโลยีที่ทางแบรนด์ JBL คิดค้นและพัฒนามาเป็นอย่างดีทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยมในแทบจะทุกสถานการณ์ และยังคงมาพร้อมโหมดรับเสียงภายนอกทั้ง Ambient Aware และโหมดพักเพื่อสนทนากับบุคคลรองข้าง TalkThru ที่รับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม สนทนาได้คมชัดในระดับเดียวกับไม่สวมใส่หูฟังฟังอยู่เลยทีเดียว

ด้านการใช้งานอื่นๆ ในรุ่นนี้โดดเด่นด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 50 ชั่วโมงเมื่อไม่เปิด ANC เลยทีเดียว และใช้งานได้ 40 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC ซึ่งโดยรวมแล้วก็ยังยาวนานกว่าแบรนด์ดังหลายๆ รุ่นในตลาด นอกจากนี้ยังมาพร้อมเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่จะเล่น/หยุดเพลงโดยอัตโนมัติเมื่อใส่หรือถอดตัวหูฟัง, การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและง่ายดายผ่าน Pop-Up เมื่อใช้งานกับ Android ด้วย Google Fast Pair และยังสลับใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย, ใช้งานรับสายสนทนาได้อย่างคมชัด ไม่พลาดทุกการติดต่อด้วยไมโครโฟหนในตัว และตั้งค่าต่างๆ เพิ่มเติมได้ด้วยการรองรับการใช้งานกับ App My JBL Headphone ทั้งตั้งค่าการตัดเสียงรบกวนและตั้งค่าแนวเสียง สุดท้ายคือเสียงที่ทรงพลัง ฟังสนุกทุกย่าน ด้วยไดรเวอร์ขนาด 40 มิลลิเมตร ปรับจูนเสียงมาเป็นอย่างดีตามสไตล์ของ JBL พูดได้ว่าฟังไม่กี่ครั้งก็หลงรักได้ง่ายๆ แน่นอน

โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย และเปิดตัวราคาเป็นทางการอยู่ที่ราวๆ £159.99 ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอนครับ