ยังคงพัฒนาและออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง กับแบรนด์ไฮเอนด์แห่งวงการเครื่องเสียงอย่าง B&O หรือ Bang & Olufsen ที่ล่าสุดกับสินค้าใหม่ล่าสุดจากทางแบรนด์ ที่มาในทิศทางเดียวกับสินค้าหูฟังตัวใหม่จาก Apple อย่าง Apple AirPods Max ที่เป็นหูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวนในระดับ Premium Hi-End สวมใส่สบายหู พร้อมฟังก์ชันการใช้งานแบบจัดเต็ม กับ หูฟังไร้สายตัดเสียงรบกวน B&O Beoplay HX ที่ในรุ่นนี้โดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาสุดหรูหราพรีเมียมตามสไตล์ของแบรนด์ B&O และนอกจากจะดูหรูหราพรีเมียมแล้วยังเป็นหูฟัง ANC ที่สวมใส่ได้นุ่มสบายหูมากๆ อีกด้วย ทำให้ B&O Beoplay HX จะมาเป็นคู่แข่งตัวหลักในตลาดของ หูฟังไร้สาย ANC ในอนาคตอย่างแน่นอน โดยนอกจากสวมใส่สบาย รูปทรงสุดหรูแล้วจะทำอะไรได้อีกบ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ

สำหรับฟังก์ชันเด่นของรุ่นอย่าง การตัดเสียงรบกวน หรือ Adaptive Active Noise Cancelling เป็นเทคโนโลยีล่าสุดจากทางแบรนด์ที่พัฒนามาเป็นอย่างดี ผลที่ได้คือสามารถตัดเสียงได้อย่างยอดเยี่ยมโดยสามารถลบเสียงรบกวนพื้นหลังรอบๆ ตัวออกไปได้แทบทั้งหมด รวมกับการออกแบบที่คิดมาเป็นอย่างดีและวัสดุที่เลือกใช้ระดับพรีเมียม ทำให้เมื่อสวมใส่แล้วสามารถป้องกันเสียงรบกวนไปได้อย่างมาก เมื่อทำงานร่วมกับระบบตัดเสียงรบกวนจึงทำให้เสียงที่ได้นั้นเงียบกริปแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน สร้างสมาธิจดจ่ออยู่กับกิจกรรมที่ทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นขณะทำงาน นั่งอ่านหนังสือ หรือขณะเดินทางโดยสารยานพาหนะต่างๆ รวมถึงเมื่อมีสายเข้าก็สามารถสนทนาได้อย่างคมชัดไม่พลาดทุกการติดต่อเช่นกัน ด้วยไมโครโฟนที่ให้มาถึง 4 ตัว (2 ทำงานร่วมกับระบบตัดเสียงรบกวนอีก 4 ตัว รวมแล้วมีไมค์ถึง 8 ตัวเลยทีเดียว) รับเสียงได้ชัดเจนและตัดเสียงแทรกได้ยอดเยี่ยมด้วยเช่นกัน

ด้านการออกแบบรุ่นนี้ได้รับการออกแบบโดย MNML สวมใส่แบบครอบหู Over-Ear และเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมที่มีความหรูหราและทนทาน ได้แก่ Aluminium, Leather, Fabric, Polymer และ Rubber มีขนาดอยู่ที่ W: 195 x H: 200 x D: 52 มิลลิเมตร และน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 285 กรัมเท่านั้น เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.1 รองรับ Codec ไร้สายคุณภาพสูง aptX Adaptive ตอบโจทย์ผู้ที่ชอบฟังเพลงคุณภาพสูงแบบไร้สาย รองรับผู้ช่วยเสียงและมาพร้อมปุ่มสำหรับเรียกใช้งานอย่างง่ายดาย และยังรองรับการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่าน AUX/3.5 mm. อีกด้วย ส่วนของแบลตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 35 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วจาก 0 - 100% เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น รวมถึงส่วนของเรื่องเสียงก็ให้สเปคมาแบบจัดเต็มเช่นกัน โดยให้ไดรเวอร์พิเศษแบบ Electro-dynamic driver w/ Neodymium magnets ขนาดใหญ่ถึงข้างละ 40 มิลลิเมตรเลยทีเดียว

โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย และเปิดตัวราคาอยู่ที่ €499 ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอนครับ