หูฟัง Apple AirPods with MagSafe Charging Case True Wireless (3rd Generation)

การมาถึงของ Generation ที่ 3 ของหูฟัง True Wireless เปลี่ยนโลกจากแบรนด์ Apple อย่าง หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ที่แม้จะเป็นรุ่นที่ 3 แล้วแต่ก็ยังคงสร้างความว้าวให้กับผู้ใช้งานได้อยู่เสมอ ด้วยความยอดเยี่ยมของ Apple AirPods (3rd generation) ที่ได้รับการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดทั้งภถายนอกและภายใน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปทรงและรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในขณะเดียวกันก็ยังคงจุดเด่นด้านการสวมใส่ที่เบาสบายกระชับหูเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการเอาไว้อย่างครบถ้วน

รวมถึงการควบคุมที่เปลี่ยนมาเป็นแบบบีบที่ก้านแบบเดียวกับ AirPods Pro พร้อมก้านที่สั้นลงกว่าเดิม ส่วนด้านการเชื่อมต่อก็ยังคงง่ายดายเช่นเดิม เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple ได้ง่ายๆ เพียงแตะเดียว พร้อมทั้งปรับปรุงให้ใส่ออกกำลังกายได้แล้วในรุ่นนี้ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 รองรับเสียงรอบทิศทางแบบติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะและ Dolby Atmos พร้อมเคสชาร์จที่รองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe ทั้งหมดนี้อัดแน่นมาใน หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ที่พร้อมจะขึ้นแท่นหูฟังยอดนิยมรุ่นต่อไปอย่างแน่นอน

Generation ที่ 3 ของเจ้าของตำแหน่งหูฟัง True Wireless เปลี่ยนโลก!

วัสดุ

เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของแบรนด์ Apple ก็ว่าได้กับเรื่องของวัสดุที่ทาง Apple นั้นได้มีการคิดค้น วิจัย และเลือกสรรค์วัสดุของอุปกรณ์ทุกรุ่นมาเป็นอย่างดี และเลือกสรรค์แต่วัสดุคุณภาพพรีเมียม ให้ความรู้สึกที่หรูหราสวยงาม ในข๊ะเดียวกันก็มีความแข็งแรงทนทานสูงด้วยเช่นกัน การันตีได้จากสินค้าจากแบรนด์อื่นๆ ที่ได้แรงบันดาลใจไปก็มักที่จะเลือกสรรค์วัสดุที่มีความใกล้เคียงกันนั่นเอง โดย หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ยังคงเลือกใช้วัสดุพลาสติกเกรดพรีเมียมสีขาวเงา Glossy แบบเดียวกับใน AirPods Pro และใน AirPods 2 ซึ่งผลที่ได้คือความสวยงาม หรูหรา พรีเมียมไม่ซ้ำใครตามสไตล์ของ Apple นั่นเอง

การออกแบบและการสวมใส่

สำหรับการออกแบบ หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) นั้นมีรูปร่างหน้าตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมแบบสิ้นเชิง แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเทียบกับ AirPods Pro ก็จะเห็นได้ว่ามีความคล้ายกันอย่างมาก ทั้งรูปทรง ขนาดก้าน รวมถึงการที่เปลี่ยนมาสั่งการแบบบีบเช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงบริเวณท่อเสียงที่ หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ยังคงเป็น Earbud เช่นเดิม ในขณะที่ AirPods Pro จะเป็นการสวมใส่แบบ In-Ear ดังนั้นหากให้สรุปก็คือแม้จะเปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมแต่ก็ไม่ใช่ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด ส่วนการสวมใส่นั้นยังคงให้ความรู้สึกว่าเป็น Earbud ที่สวมใส่ได้สบายเป็นอันดับต้นๆ ของวงการอยู่เช่นเคย สวมใส่ได้แน่น กระชับหู ไม่อึดอัด จะขยับหรือเคลื่อนไหวแรงแค่ไหนก็ไม่หลุดหรือเคลื่อนออกจากหูให้ต้องกังวลแน่นอน

เคสชาร์จไร้สายรองรับ MagSafe

หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ได้รับการปรับปรุงในเรื่องของแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนขึ้นกว่าเดิมเป็น 6 ชั่วโมงต่อครั้ง และมาพร้อมเคสชาร์จที่ชาร์จเพิ่มได้อีก 24 ชั่วโมงรวมแล้วสามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว ตัวเคสมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด กำลังดี พกพาใส่กระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงได้สบายๆ และที่สำคัญอีกจุดหนึ่งที่เพิ่มเข้ามานั่นคือการรองรับการชาร์จไร้สายและ MagSafe แบบเดียวกับบน iPhone อีกด้วย ทำให้สามารถเลือกชาร์จเคสได้ทั้งผ่านสาย Lightning หรือจะใช้แท่นชาร์จ MagSafe ก็ได้เช่นกัน

การควบคุมและการใช้งาน

ด้านการใช้งานของ หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ก็ยังคงคอนเซ็ปท์ใช้งานได้ง่ายดาย ใครก็ใช้ได้ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดตัวหูฟังที่เพียงเปิดฝาก็จะเป็นการเปิดตัวหูฟัง และเมื่อนำมาใกล้อุปกรณ์ Apple ก็จะมี Pop-Up สำหรับเชื่อมต่อที่สัมผัสเพียงแตะเดียวก็เป็นอันเชื่อมต่อได้สำเร็จ และหากไม่ใช้งานเพียงเก็บหูฟังลงเคสและปิดฝาก็จะเป็นการปิดตัวหูฟังโดยอัตโนมัติ ด้านการควบคุมนั้นเปลี่ยนจากการแตะในรุ่นที่แล้วมาเป็นบีบที่ก้านในรุ่นนี้ โดยรวมยังคงใช้ง่ายแบบเดียวกับ AirPods Pro ซึ่งการบีบ 1 ครั้งสำหรับ เล่น/หยุดเพลง, รับ/วางสายโทรศัพท์ บีบ 2 ครั้งเพื่อข้ามไปเพลงถัดไป บีบ 3 ครั้งเพื่อย้อนไปเพลงก่อนหน้า บีบค้างไว้เพื่อเรียกใช้ Siri หรือจะเรียกผ่านการพูด “หวัดดี Siri” ก็ได้เช่นกัน ที่ตัวหูฟังยังมีเซนเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่จะเล่นเพลงเมื่อใส่ และหยุดเพลงเมื่อถอดอีกด้วย

รีวิวเสียง

ด้านสเปคเสียง Apple AirPods (3rd generation) ก็ยังคงจัดเต็มฟังสนุกทุกย่านและทุกแนวเพลงเช่นเคย ด้วยสเปคภายในที่จัดมาเป็นพิเศษทั้ง ไดรเวอร์ High-excursion แบบเฉพาะของ Apple และ EQ แบบปรับได้เอง ฟังสนุกทุกแนวเพลง พิเศษกว่าหูฟังไร้สายรุ่นไหนๆ ด้วยการรองรับระบบเสียงรอบทิศทางสมจริง Dolby Atmos และ Spatial Audio ที่จะขับเสียงแบบติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ ให้ความรู้สึกที่สมจริงแบบที่หาไม่ได้ในหูฟังรุ่นใดๆ

• เสียงกลาง: ด้านเสียงกลางเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของหูฟัง Apple ก็ว่าได้ โดยเนื้อเสียงที่ได้มีความใสและเคลียร์เป็นอย่างมาก โทนเสียงเย็น ฟังแล้วให้ความรู้สึกที่เคลียร์สบายหู ด้านรายละเอียดก็ให้มาแบบจัดเต็มครบถ้วนในทุกมิติตอบโจทย์ทั้งการฟังเพลง ดูหนัง และเล่นเกม
• เสียงสูง: สำหรับเสียงสูงก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน โดยให้เสียงที่ทอดไปได้ไกลไปจนสุด ไล่ไปได้ตรงตามตัวโน็ตไม่มีผิดเพี้ยน ตัวเนื้อเสียงมีความเรียบเนียนไม่มีสากเสี้ยน และเนื้อเสียงมีความกลมเต็มชุ่มฉ่ำไม่แห้ง ปลายเสียงตัดเก็บได้เนียนคมไม่พร่าปลาย ภาพรวมคือเสียงหวานฟังสบายหู
• เสียงเบส: เป็นย่านที่ได้รับการปรับปรุงมาจากในรุ่นที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมในรุ่นที่ 2 ที่จะมีจุดอ่อนในเรื่องของย่านเบสที่เบากว่าปกติรวมกับจุดอ่อนของความเป็นหูฟัง Earbud ได้น้อยกว่าหูฟังประเภทอื่นๆ มาในรุ่นที่ 3 ต้องบอกเลยว่าให้เบสที่หนักแน่นขึ้น สัมผัสได้มากขึ้น และเป็นเบสที่ลงได้ลึกไม่ลอยไม่บวมหรือเป็นเบสบางๆ แบบที่พูดได้ว่าฟังเพลงเบสหนักในรุ่นนี้สนุกแน่นอน
• เวทีเสียง : มิติเสียงของ Apple AirPods (3rd generation) ต้องบอกเลยว่ามีความกว้างและใหญ่มากๆ เพราะหลักๆ เลยคือต้องออกมารองรับฟังก์ชันเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos และ Spatial Audio`และด้วยความที่เสียงมากจากรอบทิศทางจึงทำให้ต้องเผื่อเนื้อที่ในการขับเสียงจากเครื่องดนตรีต่างๆ ทำให้มีเวทีเสียงที่ใหญ่และกว้างนั่นเอง รวมถึงสามารถจัดวางเครื่องดนตรีต่างๆ ได้อย่างเป็นระเบียบจับทิศทางต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

แนวเพลงที่เหมาะสม: Pop / Rock / Pop-Rock / Jazz

สรุป หูฟัง Apple AirPods with MagSafe Charging Case True Wireless (3rd Generation) เหมาะกับใคร?

หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ราคามาตรฐานสไตล์แบรนด์ Hi-End อย่าง Apple ซึ่งก็เป็นที่ทราบกันดีว่าแม้ตัวราคาอาจจะดูสูงกว่าหลายๆ รุ่นและหลายๆ แบรนด์ แต่ทุกครั้งสินค้า Apple ก็มักจะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานและคุณภาพที่ต้องบอกเลยว่าคุ้มราคาหรืออาจจะเรียกดได้ว่าเกินราคาก็ว่าได้ โดย Apple AirPods (3rd generation) เหมาะกับผู้ที่กำลังมองหา หูฟังไร้สาย Apple AirPods รุ่นใหม่,​ ผู้ที่อยากอัพเกรดจาก Apple AirPods 2 ไปเป็นรุ่นใหม่พร้อมฟังก์ชันที่ครบกว่า หรือผู้ที่อยากได้ Apple AirPods Pro แต่ไม่ชอบหูฟัง In-Ear หรือไม่ต้องการฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน ทั้งนี้ด้วยความสามารถในการใช้งานที่ Apple AirPods (3rd generation) นำมานั้นเรียกได้ว่าเป็นการอัพเกรด Apple AirPods 2 ไปอีกระดับ หรือจะพูดว่าเป็น Apple AirPods Pro ที่ไม่มีฟังก์ชัน ANC และสวมใส่แบบ Earbud ก็ว่าได้ และไม่เพียงแต่ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการณ์ของ Apple จะใช้ได้เท่านั้น แต่ Android ก็ยังใช้งานได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากมองหาหูฟัง True Wireless ที่ครบครันที่สุดและเป็นรุ่นสานต่อตำนาน True Wireless เปลี่ยนโลกก็ต้องบอกเลยว่า ห้ามพลาด!